ทาทา ยัง

ชื่อจริง :. อมิตา มารี ยัง  ( Amita Marie Young )

วันเกิด :. 14 ธันวาคม 2523  

ราศี :. ธนู

การศึกษา :. อนุปริญญา จาก Nabraska University of Lincoln

แนวเพลง :. Pop  

สังกัด :. Sony Music Bec Tero  

ผลงาน

-  ปี 2538  อัลบั้ม อมิตา ทาทา ยัง

-  ปี 2540  อัลบั้ม Amazing TaTa

-  ปี 2544 อัลบั้ม TATA YOUNG (สังกัด เทโร เรคอร์ด)

-  ปี 2546 อัลบั้ม Real TT (สังกัดโซนี่ มิวสิค บีอีซี เทโร)

-  ปี 2547 อัลบั้ม I believe (สังกัด Columbia)

ผลงานอัลบั้มพิเศษ

-  ปี 2538 อัลบั้ม ฉลอง 1,000,000 ตลับ  

-  ปี 2539 อัลบั้ม 6-2-12  

-  ปี 2540 อัลบั้ม มอส&ทาทา

-  ปี 2541 อัลบั้ม O-Negative รักออกแบบไม่ได้

-  ปี 2545 อัลบั้ม เพลงประกอบละครเรื่อง "ปลายเทียน"

-  ปี 2545 อัลบั้ม FIFA World Cup

-  ปี 2546 อัลบั้ม Perspective 1-2

ผลงานอื่นๆ

- ละครเรื่อง "ปลายเทียน"

- โฆษณา Smoot E, Panasonic, ฟิล์มสีฟูจิ, คอลเกต, ยามาฮ่า

- ตัวแทนนักร้องไทยในวันส่งมอบเกาะฮ่องกง คืนประเทศจีน

- Official Singer ของงานวันปิดกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13

รางวัลที่เคยได้รับ

- ปี 2533 รางวัลชนะเลิศ สาขาเพลงต่างประเทศ นิสสันมิวสิคอวอร์ด

- ปี 2538 รางวัลนักร้องยอดเยี่ยม, อัลบั้มยอดเยี่ยม และมิวสิควิดีโอยอดเยี่ยม จากเรดิโอโหวต อะวอร์ด

- ปี 2539 รางวัลนักร้องยอดนิยม จากสมาคมดนตรี แห่งประเทศไทย

ภาพยนตร์

2540 : จักรยานสีแดง (รับบท ขม)

2541 : รัก-ออกแบบไม่ได้ (รับบท ปริม)

2553 : ข้ามฟ้าหาสูตรรัก (รับบท ทาทา ยัง)

      "สาวน้อยมหัศจรรย์" เป็นชื่อแฝงที่เธอได้มาจากความสามารถ รอบตัวและความสำเร็จที่ได้มา ด้วยอายุอันน้อยนิดของ "อมิตา มารี ยัง" หรือ "ทาทา ยัง" เด็กน้อยเสียงใสที่ พวกเรา เห็นเธอ จากเวทีประกวด นิสสันมิวสิค อะวอร์ดในปี 2533

     หลังจาก นั้นไม่นานเธอก็กลายเป็นสาวน้อยผมสั้น ทีท่าทะมัดทะแมงกับอัลบั้มชุดแรก "อมิตา ทาทายัง" ที่ดังเป็นพลุแตก แหวกทางรุ่นพี่มายืนบนเวทีนักร้องอาชีพ แถวหน้าอย่างไม่ต้องอายใคร จากนั้นชื่อของ "ทาทา ยัง" ก็ยังได้ปีนขึ้นสู่หอเกียรติยศ แห่งจอเงินด้วยภาพยนตร์เรื่อง "จักรยานสีแดง" และ"O-Negative รักออกแบบไม่ได้" ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม

     ความสดใสบวกกับ ความสามารถรอบตัว ทำให้เธอเป็นที่ยอมรับของมหาชนอย่างงดงาม ชื่อของเธอได้กลายเป็นคำที่ถูกพิมพ์บ่อยครั้งในสื่อต่างๆ โดยถูกยกย่องเป็น 1 ใน 10 บุคคลผู้เป็นอิทธิพล แก่ผู้คนในประเทศไทย จากนิตยสาร ELLE ในปี 2540, 1 ใน 25 บุคคล ผู้เป็นที่ยอมรับในเอเชีย จาก ASIA WEEK MAGAZINE ในปี 2541 และเป็น 1 ใน 100 ศิลปินผู้มีอิทธิพลในรอบศตวรรษ จากหนังสือพิมพ์ NATION

     ในปี 2542 ด้วยอัลบั้มเพลง 6 ชุด (เดี่ยว 2 ชุด และอัลบั้มที่จัดทำพิเศษอีก 4 ชุด) แม้จะดูไม่มากนัก แต่หากเทียบกับเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่ปีที่เธอเข้าสู่วงการ และจากยอดขายรวมทุกชุดกว่าสองล้านตลับ จึงไม่มีใครกล้า คัดค้านว่า "ทาทา ยัง" ไม่ใช่ "สาวน้อยมหัศจรรย์" ของวงการบันเทิงไทย และอีกไม่นานเธอ ก็อาจจะกลายเป็น "สาวน้อยมหัศจรรย์" ของวงการบันเทิงสากลอย่างที่เธอ ต้องการก็เป็นได้

      หากย้อนเวลากลับไปดูชีวิตวัยเด็ก ของสาว น้อยมหัศจรรย์คนนี้ เธอเองก็เป็นเหมือนเด็กสดใสธรรมดาๆ เหมือนเด็กอื่นในวัยเดียวกัน ถ้าไม่ใช่เพราะเทปมิวสิควิดีโอเพลง "Moonwalker" ของ ไมเคิล แจ็คสัน ที่ป้าส่งมาให้จาก แคนาดาวันนั้น เธอก็คงยังไม่รู้ว่าตัวเองว่าชอบร้องเพลง และเป็นเพราะเธอไม่เคยปล่อยให้ความสนใจ ละลายไปกับวันเวลา จึงได้ฝึกเรียนร้องเพลงและเข้าประกวด นิสสันมิวสิค อะวอร์ดในปี 2533 และคว้ารางวัลนักร้องยอดเยี่ยมมาได้ ด้วยวัยเพียง 10 ปี แต่มีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม

     แกรมมี่ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ได้เห็นแววอัจฉริยะในตัวเด็กน้อยผู้นี้ จึงรับเข้าเป็นนักร้องในสังกัด พร้อมกับที่จะนำเธอสู่ความ ยอมรับของมหาชน ในฐานะป๊อปสตาร์ที่เด็กที่สุดในประเทศไทย "อมิตา ทาทายัง" เป็นชื่ออัลบั้มแรก ที่เป็นเหมือนการเปิดตัว ให้ทุกคนจดจำชื่อนี้ และปี 2537 นั้นเองที่ถือได้ว่าเป็นปีเกิด บนเวทีนักร้องอาชีพของเธอ ทั้ง 10 เพลงในอัลบั้มถูกเปิดแล้ว เปิดอีกในทุกสถานี

     เสื้อยืดตัวเล็ก กับกางเกงหลวมโคล่ง ที่ถูกเรียกว่า กางเกงทรง "ทาทา" นั้น ได้ฮิตอย่างแพร่หลายไปทุกมุมเมือง ยอดขายเทปที่พุ่ง ขึ้นถึงหนึ่งล้านตลับ ในเวลาอันรวดเร็วเป็นบท พิสูจน์แล้วว่า มหาชนยินดีโอบอุ้มสาวน้อยในแบบป๊อบใสใสคนนี้ ด้วยความรักใคร่เอ็นดูและยอมรับในฝีไม้ลายมือ จนทำให้ทุกคน ร่วมลุ้นระทึกเมื่อเธอได้รับการเสนอชื่อ ให้เข้ารอบ Billboard Asian Music Award 1996 แม้จะยังไม่ได้รับรางวัลในปีนั้น ก็ถือได้ว่า เป็นการออกสตาร์ตที่พุ่ง แรง เกินความคาดหมายสำหรับ สาวน้อยอายุ 15 ในวันนั้น

     ปี 2539 เธอได้เป็นหนึ่งใน 5 นักร้อง หลักของแกรมมี่ ในการร่วมออกอัลบั้มพิเศษชุด 6-2-12 ที่เสมือนเป็น ใบการันตีจากคนใน วงการเพลงแล้วว่า "ทาทา" ไม่ใช่เด็กอีกแล้ว แต่เธอเป็นมืออาชีพเคียงบ่าเคียงไหล่นักร้อง ยอดนิยมรุ่นพี่ ในยุคนั้นได้อย่างสบายๆ

     ในปีถัดมา 2540 เป็นอีกปีหนึ่งที่เรียกได้ว่า เป็นปีทองของเธอ ด้วยการเปิดประตูสู่การเป็นนักแสดง กับภาพยนตร์เรื่อง "จักรยานสีแดง" พร้อมกับออกอัลบั้มเพลง ประกอบภาพยนตร์ และถัดมาในปลายปีกับอัลบั้มเพลงส่วนตัว "อเมซิ่ง ทาทา" ที่ยังคงยอดขายหลักล้านที่ยากจะหาใครลบสถิติ ความเร็วและแรงของเธอได้ ซึ่งในกลางปีเดียวนั้นเองที่ รัฐบาลจีนได้เชิญเธอในฐานะนักร้องจากประเทศไทย เพียงคนเดียว ที่ไปร่วมงานเฉลิมฉลองส่งมอบเกาะฮ่องกงคืน ซึ่งนับเป็นการยอมรับ ในระดับสากลอีกครั้งของเธอ

     ปี 2541 ดูเหมือนจะเป็นปีแห่งการ แสดงของทาทา "O-Negative รักออกแบบไม่ได้" เป็นภาพยนตร์ แนวใหม่ที่ชี้ถึง ความสำเร็จ ของเธอด้วยรางวัลมากมาย แม้ผลงานเพลงจะยัง ไม่มีเด่นชัดนัก แต่อัลบั้มเพลงประกอบ ภาพยนตร์ก็ช่วย ทำให้คนหายคิดถึงเธอได้ ในระดับหนึ่งเหมือนกัน

     จากนั้นเราก็ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเธอหลัง จากหายหน้าไปนาน เมื่อมีการเปิดตัวนักร้องหลักของกีฬา เอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 "อมิตา ทาทา ยัง" ไม่ใช่เด็กน้อยอีกต่อไปแล้ว เสียงเพลง "Reach for the stars" ที่ก้องกังวาลไปทั้งสนาม และยังแพร่ภาพไปทั่วโลกนั้น แสดงถึงพลัง แห่งเสียงร้อง และรัศมีการเป็น "ตัวจริง" ของหญิงสาวสวยคนนี้

     ห่างหายจากวงการไปนานหลายปี กันยายน 2544 ทาทากลับมา อีกครั้งในสังกัดใหม่ เทโร เรคอร์ด พร้อมอัลบั้มชุดใหม่ TATA YOUNG เพลงในอัลบั้มหลายเพลงยังคงเป็นแนวป๊อป แต่ที่ เปลี่ยนแปลงคือสีสันของแต่ละเพลงที่จะแตกต่างกันไป ซึ่งทั้งหมด นั้นก็ดึงมาจากบุคลิกของทาทาเอง เช่นเพลงสนุกอย่าง ช็อต, อา-โบ-เด-เบ, ตัวแสบ, หวานใจ ก็จะเป็นเพลงแสบๆ ซ่าๆ และร่าเริง หรือถ้าเป็นเพลงช้าอย่าง เก็บฉันไว้ยืนข้างเธอทำไม, อย่าเกลียดกันก็พอ ก็จะเป็นอามณ์ซึ้งๆ ในแบบของเธอ

    ระยะเกือบ 2 ปี ที่ปล่อยให้แฟนเพลงรอคอย วันนี้ทาทากลับมา พร้อมอัลบั้มเพลงใหม่ล่าสุดชื่อ Real TT (เรียว ทีที) ซึ่งมีความหมายตรงตัวถึง ความเป็นตัวตนที่แท้จริงของทาทา ในมุมที่เป็นส่วนตัวที่คุณคาดไม่ถึง และไม่เคยสัมผัสมาก่อน มีหลากหลายอารมณ์ทั้งสนุก หัวเราะ เศร้าเคล้าน้ำตา แนวเพลงยังคงความเป็นป๊อป ที่ผสมผสานความเป็นแดนซ์, เทคโน และ R&B เปิดตัวด้วยเพลง "Super แฟน (super man)" เพลงเต้นรำ จังหวะสนุกๆ และเพลงช้าอย่าง "อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน" เรื่องจริงที่อาจเกิดขึ้น กับชีวิตใครหลายคน รวมทั้งเธอยังได้ควบตำแหน่ง Co-Porducer ร่วมเขียนเนื้อเพลงและวางคอนเซ็ปต์ในอัลบั้มชุดนี้อีกด้วย