กำหนดคลี่คลายปริศนา : 2 กุมภาพันธ์ 2549
ทีมสร้างปริศนา : โรแมนติก-แฟนตาซี (แนวภาพยนตร์) / ผีเสื้อสมุทรออนไลน์ / บริษัท อาร์.เอส.โปรโมชั่น จำกัด (มหาชน) (สร้าง) / บริษัท อาวอง จำกัด (ดำเนินงานสร้าง) / เกรียงไกร เชษฐโชติศักดิ์, สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์, ราเชนทร์ ลิ้มตระกูล (ผู้อำนวยการสร้าง) / ราเชนทร์ ลิ้มตระกูล, จันทิมา เลียวศิริกุล, พิสุทธิ์ แพร่แสงเอี่ยม (ผู้ควบคุม-ดำเนินงานสร้าง) / ยรรยง ตฤณชาติวณิชย์ (LINE PRODUCER) / พิสุทธิ์ แพร่แสงเอี่ยม (บทภาพยนตร์) / ชานนท์ สมฤทธิ์ (ผู้กำกับภาพยนตร์) / ชนินทร เมืองสุวรรณ (ผู้ช่วยผู้กำกับภาพยนตร์ 1) / ศรา ยืนยง (ผู้ช่วยผู้กำกับภาพยนตร์ 2) / สุภาวดี สุวรรณกูล (ผู้ช่วยผู้กำกับภาพยนตร์ 3) / ณัฐวุฒิ กิตติคุณ (ผู้กำกับภาพ) / เสริมสันต์ เสริมกิตติสวัสดิ์ (ผู้จัดแสง) / ยุทธนา ทุสาวุธ (บันทึกเสียง) / พงษ์ภณ รุมรัตนะ (ผู้คัดเลือกนักแสดง) / วันสงก์ สิทธิพรหม (ออกแบบงานสร้าง) / วรธน กฤษณะกลิน (ผู้ออกแบบและควบคุมเครื่องแต่งกาย) / วรพันธ์ นราภิรมย์ขวัญ (ช่างแต่งหน้า) / กานดา ชมเจริญ (ช่างทำผม) / วิทยา ดีรัตน์ตระกูล (เมคอัพเอฟเฟ็คต์) / ธนะพร อาคมานนท์ (ผู้ถ่ายภาพนิ่ง) / ธงยศ บุญผลิตผล (สตอรี่บอร์ด) / อนิรุทธิ์ สุทธิเนตร (เต่า Animatronic) / ปิยะทัศน์ ธรรมธารีกุล (ผู้ฝึกสอนดำน้ำ) / Digital Magic Effect (D.M.) (เทคนิคพิเศษภาพ) / แสนแสบ (ดนตรีประกอบ)
ผู้คลี่คลายปริศนา : ธัญญ์ ธนากร (แทน) / ศุภัชญา รื่นเริง (ว่าน) / อนันต์ บุญนาค (กิตติ) / คัชฑาเทพ เอี่ยมศิริ-ธงธง มกจ๊ก (ติ่ง) / อนุรักษ์ หีบทอง (กาบ) / ฉันทนา กิตติยาพันธ์ (ป้าลุงอ่ำ) / โกร่ง กางเกงแดง (ลุงออด) / ชาย เมืองสิงห์ (เฒ่าโล้) / ทศพล สนั่นวงศ์ (ผีเสื้ออ้วน)
เป็นไปได้ไหม? สิ่งที่ครั้งหนึ่ง เราเคยนึกว่าเป็นเพียงจินตนาการ มีอยู่แต่ในวรรณคดี
แท้ที่จริงแล้ว อาจเป็นอีกหนึ่งความลี้ลับของโลกใบนี้ ที่รอคอยให้มนุษย์เราค้นพบและไขปริศนานั้น
ร่วมสำรวจหัวใจคุณ ดำดิ่งสู่ท้องทะเลลึก กับภาพยนตร์โรแมนติก แฟนตาซี "ผีเสื้อสมุทร" เรื่องราวของความรัก ที่มาพร้อมกับการค้นหา
ปริศนาแห่งท้องทะเล กำลังจะถูกค้นพบ...
ผู้กำกับ : ชานนท์ สมฤทธิ์
คำโปรย : เขาเป็นมนุษย์ แต่เธอไม่ใช่ ความรักเหนือจินตนาการกำลังจะเริ่มต้น
เป็นไปได้ไหม ? สิ่งที่ครั้งหนึ่ง เราเคยนึกว่า เป็นเพียงจินตนาการ มีอยู่แต่ในวรรณคดี แท้ที่จริงแล้ว อาจเป็นอีกหนึ่งความลี้ลับของโลกใบนี้ ที่รอคอยให้มนุษย์เราค้นพบ และไขปริศนานั้น …
เรื่องย่อ
...คนโบราณเตือนไว้ เวลาอายุครบเบญจเพส ให้หนุ่มสาวพึงระวังตัว แต่คงไม่เคยมีใครเตือน "ว่าน" ให้ระวังตัว อย่าเข้าใกล้...ตู้ปลา
...ในวันเกิดอายุครบ 25 ปีนี้ "ว่าน" (ต้อง-ศุภัชญา รื่นเริง) สาวเปิ่น เฉิ่มเบ๊อะเริ่มได้ยินเสียงพูดคุยที่ไม่รู้ที่มา โดยเฉพาะเวลาว่านอยู่ใกล้ตู้ปลา จะว่าว่านอกหักที่ถูกแฟนหนุ่มบอกเลิกก็ไม่น่าจะมีอาการแปลกประหลาดแบบนี้
...ว่านตัดสินใจไปไขปริศนาที่ทะเล เพราะท่าทางตัวเองจะอาการหนักขึ้น แต่ว่านจำต้องร่วมเดินทางไปกับ "แทน" (ธันญ์ ธนากร) ช่างภาพถ่ายรูปธรรมชาติ ตั้งแต่เจอกับแทน เวลาว่านมีปัญหายุ่ง ๆ ทีไร แทนก็มักจะปรากฏตัวอยู่คอยช่วยอยู่ใกล้ ๆ เสมอ
...เมื่อมาถึงทะเล ว่านรู้สึกคุ้นเคย มีอิสระมากขึ้น ได้สัมผัสท้องทะเล ว่านรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งดำน้ำลงไปใต้ทะเลลึก ยิ่งอัศจรรย์ใจเพิ่มขึ้น ว่านค้นพบว่า ตนมีความสามารถพิเศษเวลาอยู่ใต้น้ำ แทนพาว่านมาพักที่เกาะผีเสื้อ แทนเริ่มสังเกตว่าว่านโตเป็นสาวเต็มตัว ไม่ใช่เด็กเปิ่น เฉิ่มเหมือนที่เคยเห็น ความรู้สึกดี ๆ ระหว่างว่านกับแทนค่อย ๆ ก่อตัวขึ้น
..."กิตติ" (เอ-อนันต์ บุนนาค) เจ้าของรายการโทรทัศน์ที่วางแผนจัดฉากถ่ายภาพสัตว์ประหลาดใต้ทะเล หวังสร้างให้เป็นข่าวฮือฮา แต่ระหว่างจัดฉากถ่ายทำกลางทะเลอยู่นั้น กล้องถ่ายติดภาพสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดใต้น้ำ กิตติมั่นใจว่าตนพบขุมทรัพย์เข้าให้แล้ว กิตติตั้งใจจะเอา "ตัวเป็น ๆ" ของ "ผีเสื้อสมุทร" มาเปิดเผยให้โลกรับรู้ให้ได้
...บนเกาะผีเสื้อ ช่วงเวลาที่ความรู้สึกดี ๆ ระหว่างว่านกับแทนก่อตัวขึ้นที่เกาะผีเสื้อ ว่านได้พบกับ "เฒ่าโล้" (ชาย เมืองสิงห์) ชายชราแห่งท้องทะเล เฒ่าโล้คล้ายรู้ความลับของว่าน แต่เฒ่าโล้ก็เพียงแต่เตือนว่านว่า ร่างกายว่านจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างแท้จริงหากโดนน้ำ
...แทนตัดสินใจจะช่วยว่าน ค้นหาอาการแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นกับตัวว่าน แทนไม่รู้เลยว่า ความรักกำลังพาเขาดำดิ่งลงไปสู่ปริศนาลี้ลับแห่งใต้ท้องทะเล
นักแสดง:
ธันญ์ ธนากร .... แทน
ศุภัชญา รื่นเริง .... ว่าน
อนันต์ บุนนาค .... กิตติ
ชาย เมืองสิงห์ .... เฒ่าโล้
ธงธง ม๊กจ๊ก .... ติ่ง
อนุรักษ์ หีบทอง .... กาบ
วันที่เข้าฉาย: 2 กุมภาพันธ์ 2549
บทบันทึกผู้กำกับ ต้น-ชานนท์ สมฤทธิ์
...ความคิดแรกของหนัง "ผีเสื้อสมุทร" เกิดจากการนั่งมองทะเลแล้วคิดไปว่า ในโลกเราใบนี้ มีแค่มนุษย์โลกแค่นี้หรือ? มีแค่สิ่งมีชีวิตที่เรารู้จักเท่านั้นหรือ น่าจะมีอะไรบางอย่างอีกไหม สิ่งที่เราไม่รู้ บางสิ่ง ที่อยู่ในโลกเรานี้มานมนาน แต่มนุษย์เราไม่เคยรู้
...ในวรรณคดี คำว่า "ผีเสื้อสมุทร" ถูกบรรยายแต่งแต้มสีให้ภาพเป็นนางยักษ์ ดุร้าย น่ากลัว หากว่าในยุควิทยาศาสตร์ก้าวไกลอย่างทุกวันนี้ คำอธิบายใหม่ ๆ เกิดขึ้นได้ทุกวี่วัน กระทั่งสิ่งมีชีวิตก็มีข่าวการค้นพบเผ่าพันธุ์ใหม่ ๆ ที่มนุษย์ไม่เคยรู้จักมาก่อน แทบไม่เว้นแต่ละวัน
...เป็นไปได้ไหม สิ่งที่ "ท่านสุนทรภู่" เรียกว่า "ยักษ์" บางคนจะเรียกเป็น "นางฟ้า" ก็ได้ บางคนอาจเรียกเป็น "ผีทะเล" ก็ได้ สิ่งที่เห็นนั้น อาจจะไม่ใช่ที่เป็นอยู่จริง ๆ ก็ได้ "ผีเสื้อสมุทร" ในที่นี้จึงเป็นจินตนาการก้อนใหม่ที่ไม่เกี่ยวข้องใด ๆ กับผีเสื้อสมุทรในวรรณคดี หากแต่เป็นความหมายรวมระหว่างคำว่า "ผีเสื้อ" กับ "มหาสมุทร"
...เมื่อได้ความคิดมารวมกับความที่เป็นคนชอบแฟนตาซี และโดยส่วนตัวก็เป็นคนน่ารัก (^-*) เลยเอาความเป็นแฟนตาซีมารวมกับความน่ารัก เกิดเป็นคอนเส็ปท์ขึ้นมา ถ้าเธอเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งที่อยู่ร่วมกับมนุษย์โลกนี้ ทำไมล่ะ เธอจะสวย เซ็กซี่ เหมือนเด็กญี่ปุ่นไม่ได้หรือ?
...ในแฟนตาซีจะมีความลึกลับให้ค้นหาเสมอ แม้ "ผีเสื้อสมุทร" ฉบับนี้ จะเป็นเรื่องแนวแฟนตาซี แต่เนื้อแท้ของการผจญภัยก็มีการค้นหาตัวเองไปด้วย มนุษย์ผู้หญิงผู้ชาย คนเราเป็นอย่างไรก็ต้องเป็นอย่างนั้น หากภายนอกเปลี่ยนไป แต่จิตใจยังเหมือนเดิม ความรักจะยังคงอยู่ไหม? ก็ความรักเป็นเรื่องภายในใจไม่ใช่หรือ?
...เราอาจจะคุ้นเคยกับปรัชญาที่ว่า รักแท้ชนะทุกสิ่ง แต่ถ้าเป็นรักแท้ต่างสปีชี่ย์ล่ะ สุดท้ายแล้วรักแท้จะชนะได้ไหม? คำถามนี้คงต้องทิ้งไว้ให้คุณค้นหากันเอาเอง
มุมมองโปรดิวเซอร์ : ราเชนทร์ ลิ้มตระกูล
...ในช่วงเวลาที่เรามองหาอะไรใหม่ ๆ มองหาหนังในแบบที่เรายังไม่เคยทำ ไอเดียของ "ผีเสื้อสมุทร" มันออกมาใกล้ ๆ กัน จากแรงบันดาลใจเรื่องราวในวรรณคดี เกิดเป็นคำถาม เป็นไปได้ไหม โลกนี้มันมีอะไรอีกเยอะที่เรายังไม่รู้ สิ่งมีชีวิตที่ยังไม่เคยมีใครพบเจอ อยู่ในใต้ทะเลลึก แตกหน่อกลายเป็นความคิดจินตนาการก้อนใหม่ของเรา ที่ไม่อิงวรรณคดีแล้ว แต่สุดท้ายแล้ว ก็เป็นจินตนาการของเราเอง หาก "ผีเสื้อสมุทร" ไม่ได้ต้องเป็นยักษ์อยู่อย่างเดียวล่ะ เป็นอย่างอื่นได้ไหม ก็เสริมจินตนาการมาเป็น ผีเสื้อ+มหาสมุทร เป็นแบบผีเสื้อน้ำอยู่ในทะเลลึก เป็นสิ่งมีชีวิตอีกเผ่าพันธุ์ที่แตกต่างไปจากเรา
...ต้น-ชานนท์ ผู้กำกับภาพยนตร์ เขาเหมาะกับหนังรัก เป็นคนอารมณ์ดี ผมอยากให้หนังเรื่องนี้ออกมาดูสบาย อารมณ์ดี ดูได้ตั้งแต่เด็กยันผู้ใหญ่ แต่ในความดูสบาย ๆ มันมีเรื่องราวอยู่ระดับหนึ่ง สำหรับคนยุคนี้ อะไรที่ง่ายเกินไปมันก็ไม่ได้แล้ว มันต้องมีสักนิดหนึ่ง มีความซับซ้อนหน่อย แต่ไม่ถึงขั้นปีนกระไดดู
...แต่ยืนยันว่า "ผีเสื้อสมุทร" จะไม่ใช่หนังขายเทคนิค เรื่องราวมีความน่าสนใจที่จะสนุกได้ด้วยตัวเรื่องด้วย เทคนิคเป็นตัวที่ทำให้เรื่องน่าเชื่อถือ และตื่นตาตื่นใจมากขึ้นเป็นหนังที่ระดับมาตรฐานงานสร้างสูงกว่าหนังของอาวองที่ผ่านมา เท่าที่เห็นงานนี่แฮปปี้มาก ได้โรแมนติก ตลก แฟนตาซี ไม่อยากใช้คำว่า ผมอยากดูหนังอย่างนี้ แต่สไตล์ของอาวอง ความตั้งใจที่จะทำหนังของเรา คือ เราไม่ทำหนังตามใคร ไม่ซ้ำใคร เป็นจุดที่ผมภูมิใจ ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เช่นกัน
จินตภาพดำดิ่งสู่ท้องทะเลไทย
...ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะนำเอาความสวยงามแห่งท้องทะเลไทย แหล่งท่องเที่ยวอันเป็นเป้าหมายของนักเดินทางทั่วโลก มาบันทึกไว้ในภาพยนตร์ไทย "ผีเสื้อสมุทร"
...ทีมงาน "ผีเสื้อสมุทร" ออกตระเวนหาสถานที่แปลกตา มีความสวยงามเหมาะสมที่จะเป็นเกาะผีเสื้อตามจินตนาการของ ต้น-ชานนท์ สมฤทธิ์ ผู้กำกับภาพยนตร์ หลังค้นหาเป็นแรมปี ในที่สุดก็พบ เกาะพลวย หมู่เกาะอ่างทอง จังหวัดสุราษฎ์ธานี ด้วยบรรยากาศชายหาด เวิ้งอ่าว ภูเขา รวมทั้งสีของน้ำทะเลของเกาะพลวยแห่งนี้ตรงกับจินตนาภาพที่ออกแบบไว้ ทีมงานจึงตัดสินใจเลือกที่นี่เป็นสถานที่ถ่ายทำ ทั้งที่ไม่สามารถค้างแรมข้ามคืนได้ ทีมงานจึงต้องฝ่าคลื่นทะเล เดินทางไป-กลับจากฝั่งทุกวันเพื่อเก็บภาพถ่ายทำภาพยนตร์ ณ เกาะแห่งนี้
...นอกเหนือจากความสวยงามตามธรรมชาติของท้องทะเลไทยแล้ว ส่วนที่สำคัญของภาพยนตร์ไทย "ผีเสื้อสมุทร" คือ จินตภาพใต้ท้องทะเลที่งดงามแปลกใหม่ อันเกิดขึ้นโดยฝีมือสร้างภาพคอมพิวเตอร์กราฟฟิคแอนิเมชั่นทีมงานชาวไทยในชื่อ D.M.– Digital Magic Effect ผู้ผลิตงานแอนิเมชั่นหนังโฆษณาชื่อดังของเมืองไทย ที่หันมาจับงานภาพยนตร์จอใหญ่ใน "ผีเสื้อสมุทร" เป็นเรื่องแรก โดยมีผลงานโฆษณาที่ผ่านมา อาทิเช่น โฆษณาไทยประกันชีวิต ชุด พ่ออยากมีเวลาให้ลูก, โฆษณากรุงเทพประกันภัย ชุด พายุทอร์นาโด ฯลฯ
เอ็กซ์-จักรพงษ์ ก้งเซ่ง โปรดิวเซอร์ผู้ควบคุมทีมงาน CG "ผีเสื้อสมุทร" เล่าว่า "ผีเสื้อสมุทร เป็นหนังไทยเรื่องแรกของเรา รวมเวลาทำงานกว่า 3 ปี ทีมงานกว่า 20 คน มีช็อต CG มากกว่า 200 ช็อต นับว่า เป็นหนังไทยที่มีช็อทซีจีเยอะมากพอสมควร"
...สถานที่ลี้ลับใต้ท้องทะเลแห่งหนึ่งที่ปรากฎในหนัง ที่ชื่อ "ดวงตามหาสมุทร" นับเป็นความยากอย่างหนึ่งที่ทีมงาน D.M. ต้องสร้างสรรค์ออกแบบขึ้นมา
"ดวงตา มหาสมุทร เป็นงานออกแบบของทีม D.M. ซึ่งมีความยากมาก เพราะต้องถ่ายบูลสกรีนใต้น้ำกับนักแสดง ไลท์ติ้งจัดแสงที่ยาก การควบคุมอาการลอยไม่มีน้ำหนักของสิ่งต่าง ๆ แม้กระทั่งเส้นผมที่ลอยน้ำ การวางตำแหน่งต่าง ๆ ยากมาก ยังมีช็อตน้ำท่วมจากเพดานห้อง เป็นอีกงานออกแบบที่ต้องใช้จินตนาการกันหน่อย จู่ ๆ น้ำท่วมน้ำทะลักลงมาจากเพดานลงมาท่วมตัวนางเอก แทนที่จะท่วมจากข้างล่างขึ้นไปข้างบนเหมือนเราเทน้ำลงค่อย ๆ ให้เต็ม แต่ในช็อตนี้เป็นการไหลของน้ำที่ย้อนทิศทาง ก็ต้องดีไซน์กันใหม่
...ฉากใหญ่อีกฉากคือ ช็อตฝูงผีเสื้อบุกเกาะก็จะยากมากช็อทหนึ่ง ฉากนั้นมีการต่อสู้กันตรงบริเวณชายหาด มีเรื่องของการอนิเมทภาพตัวผีเสื้อปรากฏตัวเยอะมากเป็นฝูงใหญ่บินมาต่อสู้กัน แนวทางในการออกแบบดีไซน์ CG เรื่องนี้ เราคิดและพัฒนางาน CG ตามแนวที่ คุณต้น-ผู้กำกับภาพยนตร์ต้องการ คือ อยากให้ออกแนวแฟนตาซีไม่เคยมีมาก่อน แต่ไม่ถึงกับน่ากลัว แต่รู้สึกได้ว่ามีชีวิต มีความรู้สึก เรื่องวิธีการถ่ายทำและทำงาน คุณติ-กิตติพงศ์ เนตรแก้ว ตำแหน่งซูเปอร์ไวเซอร์ซีจี จะทำหน้าที่เหมือนวิช่วล เอฟเฟคต์ เป็นซูเปอร์ไวเซอร์ ดูแลช็อตทั้งหมด ตัวผมดูแลทีมงานทั้งหมด
...งานออกแบบทุกช็อตเราต้องมาคิดวิธี เราช่วยดีไซน์ให้เกือบทั้งหมด ตั้งแต่ช็อตผีเสื้อบุก เราไปดู โดยคุณติไปดูตั้งแต่ดีไซน์แบบ คิดหาวิธีถ่ายทำให้ด้วยเรียกว่าออกแบบฉากให้เลย ถ่ายทำยังไง จะให้ภาพออกมาอย่างไร เพื่อที่เราจะเอางานที่ถ่ายทำมาทำงานขั้นตอนต่อไปได้สมบูรณ์ซึ่งเราดูแลงานให้ได้จนถึงจบงานหนังเลย
...ผมมองว่า ใน vision ของงานแล้ว ผมมั่นใจว่า อย่างน้อย ๆ หนังเอฟเฟ็คต์ซีจีที่ทำกันมาในบ้านเราก็ยังไม่เยอะมาก แต่จำนวนช็อต CG ใน "ผีเสื้อสมุทร" ค่อนข้างเยอะ อย่าไปมองให้เป็นเรียลลิสติค เพราะมันเป็นหนังแฟนตาซี แต่ในแง่งานออกแบบที่ดูสมจริง งานเราไม่น้อยหน้าแน่นอนครับ
...งานออกแบบที่เราภูมิใจอีกชิ้นคือ ดีไซน์คาแร็คเตอร์ปลาทองในโถปลา ที่หน้าตาเป็นปลาทองธรรมดาแต่ร้องเพลงได้ ซึ่งเราทำให้มันออกมาดูเวอร์ ๆ กวน ๆ ในตัวมันเอง ให้มันตลก ๆ น่ารัก ๆ ผมว่า ดูจากภาพที่ได้แล้ว งานซีจีของเราตอบโจทย์ผู้กำกับฯ ได้ใกล้เคียงแฟนตาซีที่ดูแล้วสนุกครับ"
...นอกจากงานด้านภาพที่งดงามแล้ว ภาพยนตร์ "ผีเสื้อสมุทร" ยังเสริมสร้างอารมณ์รักโรแมนติก-แฟนตาซี ด้วยน้ำเสียงของนักร้องสาวเสียงดี ปาน-ธนพร แวกประยูร มาขับร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ "รักกว่าหัวใจ" ซึ่งแต่งขึ้นเพื่อถ่ายทอดจินตนาการความรัก ความยิ่งใหญ่ของภาพยนตร์ "ผีเสื้อสมุทร" ให้สมบูรณ์ทางด้านอารมณ์อีกด้วย
คาแร็คเตอร์ตัวละคร
ว่าน (ต้อง-ศุภัชญา รื่นเริง) - สาวจอมเปิ่น ติดจะบ๊องส์ ๆ ขี้โวยวาย ขี้วีนหน่อย ๆ เพราะเพิ่งอกหักมา นับตั้งแต่อายุครบเบญจเพส ว่านก็พบเจอเหตุการณ์แปลกประหลาด เกิดความเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและจิตใจ ว่านผ่านพบประสบการณ์เหนือธรรมชาติ แม้จะสับสนแต่ก็เรียนรู้ที่จะยอมรับความจริง จนเธอเติบโตขึ้นกลายเป็นสาวสวย เป็นผู้ใหญ่ ช่างคิด สุขุมมากขึ้น แต่เวลาที่อยู่กับ "แทน" ก็ยังอดไม่ได้ที่จะเป็นสาวเปิ่น เฉิ่ม น่ารักคนเดิมอยู่เสมอ
..."ผีเสื้อสมุทร" เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ "ต้อง" รับบทนำ (และหนัก) เป็นครั้งแรก ต้องเรียนดำน้ำ (คอร์สเข้มข้น!) แบกรับ เอฟเฟ็คต์ เมคอัพ แต่งชุดผีเสื้อด้วยความหนักทั้งชุด และเมื่อยขา เพราะแค่แต่งหน้า-เสื้อผ้าก็ 5 ชั่วโมง (ต้องยืนตลอดเวลา นั่งไม่ได้!) ยังไม่นับที่ต้องดำน้ำตัวเปล่า โดยไม่มีเครื่องช่วยหายใจ กว่าจะถ่ายทำได้แต่ละฉาก อึดยิ่งกว่าชายอกสามศอก แต่ทั้งหมดนี้ สาวต้องชูสองนิ้ว ยิ้มกิ๊กกุ สไตล์โนเนะบอกว่า "สบายมากค่ะ"
"ต้องมองว่า หนัง "ผีเสื้อสมุทร" ไม่ใช่หนังรักกันอย่างเดียว แต่มีผจญภัย ในโลกที่มีอะไรที่เราไม่รู้อยู่มากมาย ต้องพยายามถ่ายทอดตัวว่านให้เป็นเหมือนผู้หญิงคนหนึ่ง ที่เติบโตมาตามปกติ มีความรัก เหมือนผู้หญิงทั่ว ๆ ไป แล้วเขาค่อยมารู้ว่า เขาไม่ใช่คนที่จะอยู่บนโลกนี้ได้ ไม่สามารถอยู่กับคนที่เขารักได้ การทำงานเรื่องนี้ ต้องได้ประสบการณ์เยอะมาก ท้าทายความอดทนเป็นที่สุด ทั้งเรียนดำน้ำ ถ่ายใต้น้ำ แต่งเอฟเฟ็คต์ชุดผีเสื้อที่แต่งวันแรกก็ปาเข้าไป 12 ชั่วโมง เพราะรายละเอียดมันเยอะ ต้องถ่ายหนังเรื่องนี้ตอนอายุ 19 ปี ได้ไปอยู่ใกล้ชิดทะเลนาน ๆ เหมือนเรามองเห็นความเปลี่ยนแปลงของทะเล รู้สึกเออ!! ทะเลเขามีชีวิต เป็นอีกโลกหนึ่ง คนดูน่าจะเกิดความรักธรรมชาติ ประเทศไทยมีอย่างนี้ด้วย อยากให้ไปดูท้องทะเลในหนังซิ แล้วต้องมองว่า หนังเรื่องนี้ไม่ได้เอาตัว "ผีเสื้อ" นี้มาจากไหน ไม่ได้มาจากหนังญี่ปุ่น อเมริกา แต่เป็นฮีโร่ของคนไทย ทะเลในหนังก็ของไทย เป็นความคิดคนไทยล้วน ๆ ไม่ใช่ลอกใครมา"
แทน (ธันญ์ ธนากร) - ช่างภาพหนุ่มมาดเซอร์ อารมณ์ดี ทำงานด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เป็นหนุ่มรักธรรมชาติ ใช้ชีวิตอิสระใกล้ชิดท้องทะเล แต่ก็มีความสนุกสนาน มีอารมณ์กวน ๆ ในตัว ได้มาพบกับว่านด้วยความบังเอิญ แรกพบก็ปะทะคารมไม่ยอมแพ้กัน แต่หลังจากได้สนิทสนม ผ่านเรื่องราวแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นในชีวิตว่านแล้ว แทนตัดสินใจที่จะอยู่เคียงข้าง คอยให้ความช่วยเหลือจนกลายเป็นความรัก ไม่ว่าว่านจะเปลี่ยนแปลงไปเช่นไร
...นักแสดงหนุ่มเนื้อหอมที่ถูกโฉลกกับน้ำทะเล ทั้งจากผ่านผลงานหนังใหญ่เรื่องแรก อย่าง "ตะลุมพุก มหาวาตภัยล้างแผ่นดิน" มาครั้งนี้ ธันญ์ยังไม่พ้นบรรยากาศท้องทะเล เสียงคลื่นและพายุฝน ด้วยบทบาทนำในภาพยนตร์ "ผีเสื้อสมุทร" ธันญ์ยิ่งฟิตร่างกายให้หนักกว่าเดิม เพราะครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงดำผุดดำว่าย แต่ต้องดำดิ่งไปถ่ายทำยังใต้ท้องทะเลจริง ยังรักษาเอกลักษณ์ของนักแสดงหนุ่มที่ทุ่มเทให้กับบทบาท มีความอดทนเป็นเยี่ยม และที่สำคัญงานนี้หนุ่มธันญ์ต้องดำน้ำอึดอีกต่างหาก
"แทนเป็นคนธรรมดา ๆ ไม่ได้เก่งกาจ ไม่หล่อ ไม่เท่ห์กว่าคนธรรมดาทั่วไป แต่เป็นคนธรรมดาที่ไปเจอวิกฤติที่ตัวเองก็คาดคิดไม่ถึง เป็นความรักที่เจออุปสรรคอีกขั้นหนึ่งเหมือนเราไปรักสิ่งที่เกินความคาดคิด รักโดยไม่รู้เป็นอะไร เราก็ต้องสร้างอารมณ์รักในสิ่งที่เราไม่เห็น ความรักที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวตามไปด้วย ทำงานเรื่องนี้ได้ประสบการณ์เยอะมาก เรียนดำน้ำ ถ่ายใต้น้ำ ทั้งมีกระโดดตึก ขับเรือ มีฉากแอ็คชั่นด้วย ต่อสู้วิ่งหนีผู้ร้าย ผมว่ายน้ำแข็งอยู่แล้ว จะว่าโชคดีก็โชคดี จะว่ายากก็ยาก เพราะการดำน้ำมันเป็นกีฬาที่ต้องรอบคอบมาก ๆ ต้องมีสมาธิ ต้องเซฟด้วยสภาวะรอบ ๆ ด้วย ไม่ใช่แค่ร่างกายแข็งแรงอย่างเดียว ต้องจำบท ต้องแสดงด้วย แต่ละฉากที่เราถ่ายใต้น้ำถือว่ายากมาก ๆ
...ปกติธันญ์ชอบทะเลอยู่แล้ว ตอนถ่าย "ตะลุมพุก มหาวาตภัย" ไปอยู่ทะเลฝั่งกระบี่ อันดามัน "ผีเสื้อสมุทร" นี้เป็นทะเลฝั่งอ่าวไทย สวยคนละแบบ สีน้ำทะเลจะไม่เหมือนกัน ชีวิตวัน ๆ ธันญ์เห็นแต่ทะเล อยู่ทะเลจนพอขึ้นฝั่งเกิดอาการเมาบก คือ ผมเป็นคนไม่เมาเรือ แต่พอขึ้นบก เอ๊ะ ทำไมเรามาเดินบนบกแล้วเอน ๆ นิด ๆ (หัวเราะ) "ผีเสื้อสมุทร" เรื่องนี้ ธันณ์ว่าบทแทนน่าสนใจ เพราะมันใกล้เคียงบุคคลธรรมดาที่สุด เป็นมนุษย์ทั่วไปที่มาพบเจอความรัก ความมหัศจรรย์ เชิงเรื่องก็อนุรักษ์ธรรมชาติ"
กิตติ (เอ-อนันต์ บุนนาค) - เจ้าของรายการโทรทัศน์ที่เต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัว พร้อมจะฉกฉวยผลประโยชน์เข้าหาตัว วางแผนร้ายจัดฉากถ่ายภาพสัตว์ประหลาด "ผีทะเล" ตามความเชื่อของชาวบ้านเกาะผีเสื้อ เพื่อมาออกโทรทัศน์หวังหาผลประโยชน์ แต่กลับถ่ายทำติดภาพสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาด ยิ่งทำให้กิตติเพิ่มความละโมบมากกว่าเดิม คิดแผนใหญ่ หวังเอาสิ่งมีชีวิตนั้นมาไว้ในครอบครอง เพื่อกอบโกยผลประโยชน์ให้เต็มที่
...หนุ่มเอ-อนันต์ ทำงานในวงการบันเทิงมายาวนาน เริ่มต้นจากงานโฆษณา ภาพยนตร์ และละคร ดังเป็นพลุแตกเมื่อออกอัลบั้มเพลงของตัวเองกับค่ายอาร์.เอส.ฯ ปัจจุบันเป็นนักแสดงที่คุ้นหน้าคุ้นตาในบทบาทของหนุ่มอารมณ์ขัน ห่างหายจากวงการหนังใหญ่ไปหลายปี มีผลงาน "พันธุ์ร็อกหน้าย่น" ของค่ายอาวองเมื่อปี 2546 สำหรับ "ผีเสื้อสมุทร" เป็นการพลิกบทบาท แสดงร้ายเต็มตัวเป็นครั้งแรก
"เรื่องนี้รับบทร้าย แต่ก็ไม่มาก มันก็ติดตลก ๆ สไตล์พี่แหละ คือผู้กำกับก็ไม่อยากให้เราโกงมาก หนังมีความน่ารัก ๆ เด็ก ๆ ด้วย พี่ก็เลยเล่นเป็นตัวเองสไตล์ตัวเอง ความประทับใจกับการทำงานเรื่องนี้ คือ การถ่ายทำกันที่ทะเล มีอุปสรรคเยอะมาก ถ่ายทำกันหน้ามรสุมด้วยเจอปัญหาฟ้าฝน เจอมรสุมต่าง ๆ อย่างมรสุมมาเร็วมาก ทำเอาฉากที่ทำเอาไว้พังหมดเลย สุดท้ายฉากที่เราเซ็ตไว้ก็ไม่ได้ถ่ายเพราะพังหมดเลย ต้องยกกองกลับวันนั้น แต่พี่ประทับใจทีมงานทุก ๆ คนมากเลย พอพายุเข้า เราเห็นทีมงานช่วยเหลือกันเต็มที่ ทุกคนมาช่วยกันจับฉากเอาไว้ เกาะเสาเอาไว้ไม่ให้บ้านมันพัง แล้วก็มีครั้งหนึ่ง ถ่ายเลิกกองตอนเย็นกำลังกลับเข้าฝั่ง ตอนแล่นเรืออยู่กลางทะเล แล้วเกิดใบพัดเรือหลุด ก็ต้องรอให้เรือใหญ่อีกลำมาลากไป เราก็ต้องลอยเรืออยู่กลางทะเล หลายชั่วโมงเลยตื่นเต้นมากเพราะฟ้าเริ่มมืด คลื่นทะเลซัดสูงมาก ทะเลตอนกลางคืนน่ากลัว ทุกคนกลัวนะ แต่ไม่กล้าพูด
...เรื่องนี้ได้เล่นฉากแอ็คชั่นด้วย ทั้งต่อยกับพระเอก ในหนังอาจเห็นเราเก่ง แต่ต่อยกันจริง ๆ เราเหนื่อยเพราะธันญ์เขาตัวใหญ่กว่า ก็มีแบบว่าหมัดเขาพุ่งมาเต็มหน้า พี่ต้องหลบก็โดนแบบถากหูไป ถ้าโดนจริงคงสลบ นี่ขนาดหลบยังถากหู แล้วก็ฉากขับเรือสปีดโบ๊ทที่เราขับเอง แล้วขับเร็วมาก ธันญ์เขาก็ขับมาเต็มที่ เรือเกือบชนกัน น้ำซัดเข้ามาเต็มเรือพี่เลย บวกคลื่นลมด้วย เรือเราก็โคลงน่ากลัวมากฉากนี้ แต่ก็รอดมาได้ มีเรื่องให้ตื่นเต้นในกองถ่ายเยอะมาก"
เฒ่าโล้ (ชาย เมืองสิงห์) - นายทหารสมัยสงครามโลก เครื่องบินตกที่เกาะผีเสื้อแล้วปักหลักอาศัยอยู่ที่นั่นมาตลอด อาศัยอยู่อย่างโดดเดี่ยวแยกตัวจากสังคม อุทิศตนเป็นเฒ่าทะเล ปกป้องรักษาเกาะผีเสื้อและท้องทะเล เป็นผู้กำปริศนาความลี้ลับของว่านไว้ ด้วยเหตุว่าในอดีตเคยมีความรักฝังใจอยู่กับ "แม่รำพึง" แม่ผีเสื้อแห่งท้องทะเล แม้ว่าจะเป็นความรักที่ผิดหวัง แต่เฒ่าโล้ก็เฝ้ารอคอยมานานกว่า 25 ปี
...ศิลปินแห่งชาติ ประจำปี 2538 สาขาศิลปะการแสดง นักร้อง นักแต่งเพลงลูกทุ่ง เจ้าของน้ำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ จับใจแฟนเพลงมานับทศวรรษ เป็นเจ้าของผลงานเพลงกว่า 1,000 เพลง ผลงานแสดงภาพยนตร์ เรื่องแรกคือ "เทพบุตรสิบสองคม" และร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ไว้มากมาย ชาย เมืองสิงห์ ห่างหายจากวงการหนังไทยไปร่วม 30 ปี
"รับบทเป็น เฒ่าโล้ อารมณ์ประมาณนักรบสมัยสงครามโลก ติดอยู่ที่เกาะผีเสื้อแล้วก็อยู่ที่นั่นมาตลอด ใช้ชีวิตโดดเดี่ยวไม่มีใครรู้จัก อยู่แบบชาวเกาะ นาน ๆ คนมาเห็นที กลายเป็นนักอนุรักษ์ทะเลไปเลย คล้ายตัวละครในตำนาน คนธรรมดาเกิดความรักกับแม่ผีเสื้อสมุทร เป็นความรักความผูกพันให้อยู่กับทะเลแห่งนั้น เป็นรักที่เฝ้ารอคอยมา 25 ปีเจอกันที ผมถือว่า "ผีเสื้อสมุทร" เขาให้เกียรติเรานะ เขามองเห็นคุณค่าเรา เราก็ดีใจพอสมควร ถึงจะแสดงไม่มาก แต่บทก็ดี ทางบู๊ไม่ถนัด แต่เรื่องนี้เขาแนวชีวิตรักเศร้า มีรักมีผิดหวัง บู๊นิดหน่อย แล้ว "ผีเสื้อสมุทร" ก็เป็นหนังแนวไม่ซ้ำใคร น่าสนใจที่รูปแบบ มีทุกรสชาติ ทิวทัศน์สวยงาม ทะเล และนางเอกที่แต่งเอฟเฟ็คต์ก็ดี น่าสนใจ"
ติ่ง (ธงธง มกจ๊ก) - ลูกน้องของกิตติ ที่เจอภาระหนักในการปลอมตัวเป็นผีทะเลในการถ่ายทำหลอกชาวบ้าน แค่โดนปลาตอด ติ่งไม่กลัว แต่เล่นโดนลากหายไปใต้น้ำ พุ่งไปด้วยความเร็วยิ่งกว่าปลาฉลามน่ะซิติ่งไม่ไหว แล้วไม่รู้ทำไม สงสัยติ่งจะมีเสน่ห์ในเรือนร่างอ้วน ๆ ของเธอ เพราะทุกครั้งที่เฉียดใกล้ทะเลทีไร เป็นโดนกลั่นแกล้งทุกที
...ธงธง มกจ๊ก หรือ คัชฑาเทพ เอี่ยมศิริ นักแสดงตลกขวัญใจเด็ก ๆ จากการสวมบทล้อเลียนพิธีกรเกมโชว์ "กำจัดจุดอ่อน" จวบจนรายการลาจอทีวีไปแล้ว แต่บทบาทการแสดงของธงธงก็ยังเป็นที่ติดตาติดใจแฟนๆ ปัจจุบันนับเป็นนักแสดงตลกที่มีชื่อและฝีมือโดดเด่นที่สุดแห่งยุคคนหนึ่งของวงการตลกเมืองไทย
"เรื่องนี้ เล่นเป็นนักข่าวโก๊ะ ๆ ตลก ๆ หัวหน้าบอกให้ทำอะไรก็ทำ แต่ทำแล้วโดนแกล้งทุกที ไม่รู้ทำไม ถูกแกล้งทุกฉากเลยทุกฉากเลย จริง ๆ ก็สนิทกับผู้กำกับฯ ก็จะได้ยินเรื่องราวหนังเรื่องนี้มาตลอดก็รู้สึกว่า น่าสนใจ พอพี่ต้นบอก บทเหมาะมาก เป็นบทเด่น เล่นแล้วได้เกิด ฟังเรื่องก็น่าสนใจก็ตอบรับ มั่นใจพี่ต้น เขาก็ให้บทเราเด่นจริง แต่กลายเป็นว่า เด่นตรงโดนแกล้งตลอด ฉากที่น่ากลัวที่สุด โหดที่สุด เกลียดมาก ตอนถ่ายอยู่ในน้ำ ดำน้ำลึกมากกกกก หายใจไม่ออก ไปถ่ายที่สระว่ายน้ำที่ลึกจริง ๆ ตรงที่ถ่ายลึกมากประมาณตึก 4 ชั้น พอเขาเอาอ๊อกซิเจนออก แทบจะขาดใจตาย ให้เราดำจมลงไปตั้งนานกว่าจะขึ้นมา
...เป็นการถ่ายหนังใต้น้ำครั้งแรกในชีวิตด้วย ว่ายได้แค่ท่าหมาตะกุย แต่เรื่องนี้ว่ายน้ำหนักสุด น่ากลัวมาก พอขึ้นมา พี่เขาว่าตื่นเต้นจัง ก็จะไม่ให้ตื่นเต้นได้ไง ไม่เคยถ่ายใต้น้ำอย่างนี้เลย ในใจนึก ตายแน่แล้ว โดนแกล้งทุกฉากเลย แกล้งเยอะมาก ดาราตัวเล็ก ๆ อย่างเรา แต่ก็ไม่ได้โกรธหรอก เพื่อน ๆ กัน"
แสดงความคิดเห็น