เอื้อเฟื้อแผนตบเพราะรัก: อาร์เอสฟิล์ม

เรียบเรียง-พิสูจน์แผนตบ: ซิ้มแปด มือตบแดดเดียว

แนวตบ: วัยรุ่น-รักใส ๆ

กำหนดการตบ: 24 พ.ย. 48

น่าตบเพราะรักมั้ย:

ทีมเบื้องหลังการตบ: เกรียงไกร เชษฐโชติศักดิ์, สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ (อำนวยการสร้างฝ่ายบริหาร) / คมสัน ศรีสวัสดิ์, ปิติ จตุรภัทร์ (ควบคุมงานสร้าง) / ธนพล ธนังกูล (กำกับภาพยนตร์) / บริษัท ฟิล์มเซิร์ฟ จำกัด (บทภาพยนตร์-ดัดแปลงจากบทดั้งเดิมของ มนต์ศักดิ์ เกษศิรินทร์เทพ, ขวัญชนม์ เพิ่มญาติ) / มนต์ศักดิ์ เกษศิรินทร์เทพ, ชาคร อมรเศรษฐ, ขวัญชนม์ เพิ่มญาติ (เรื่อง) / นุกูล ประสิทธิ์วรนันท์ (ผู้คัดเลือกนักแสดง) / เรือเอกนันทฤทธิ์ ฤทธิวงศ์ (ผู้ฝึกสอนวอลเล่ย์บอล) / ณัฐ นวลแพง (ผู้ฝึกสอนการแสดง) / ประยุกต์ ศรีทองกูล, ปิติ จตุรภัทร์ (กำกับภาพ) / ปิติ จตุรภัทร์ (กำกับศิลปกรรม) / อาณัติ ศักดิ์ชัย (โลเคชั่น) / กิตติ สุวรรณมณีรัตน์ (ควบคุมความต่อเนื่อง) / ฟิล์มเซิร์ฟ (ลำดับภาพ) / เมย์ สตูดิโอ (ดนตรีประกอบภาพยนตร์) / พิเชฐ เวชชศาสตร์ (ออกแบบเครื่องแต่งกาย) / ปริญญา ปานตั้น (แต่งหน้า) / เชิดศักดิ์ ชมงาม (ทำผม) / สุทธิศักดิ์ สุทธิจิตต์ (โพสต์ โปรดักชั่น) / กันตนาฟิล์มแล็ป (เทคนิคฟิล์มแล็ป) / กันตนาฟิล์มแล็ป (ผสมเสียง) / สตูดิโอบางกอก (กล้อง/ไฟ)

ตบย่อ...ย่อ

...ณ สนามแข่งขันวอลเล่ย์บอลชายหาดชิงแชมป์ประเทศไทย หญิงสาวในชุดกีฬากำลังมุ่งมั่นต่อสู้เก็บทุกแต้มคะแนนเพื่อคว้าชัยชนะ

...แต่ที่กองเชียร์ข้างสนาม มีชายหนุ่มธรรมดา ๆ อยู่คนหนึ่ง ชายหนุ่มที่กำลังนึกสงสัย

...เวลารักใครจริง ๆ สักคน เราต้องทำสักกี่คะแนนจึงจะชนะ?

...ผู้กำกับภาพยนตร์หน้าใหม่ที่พัฒนาฝีมือจากการตัดต่อและผู้ช่วยผู้กำกับภาพยนตร์มานานปี เป้ง-ธนพล ธนังกูล เล่าถึง "เพราะรักครับผม" ว่า ตั้งใจให้เป็นภาพยนตร์รักที่ถ่ายทอดจากมุมมองของลูกผู้ชาย

"จะบอกว่า 'เพราะรักครับผม' เป็นหนังรักหัวอกลูกผู้ชายก็ได้ (หัวเราะ) เมื่อผู้ชายคนหนึ่งสามารถที่จะทำอะไรก็ได้เพื่อคนตัวเองชอบ คือ เราอยากให้เป็นหนังโรแมนติกอยู่ในใจ ประมาณผู้ชายคนหนึ่งรู้จักแพ้ เพื่อให้ผู้หญิงคนหนึ่งได้ชนะ ผมตั้งใจให้เป็นหนังดูง่าย ๆ แต่รู้สึกเยอะ ไม่พยายามเร้า บีบคั้น พยายามเล่าเรื่องเหมือนเราดูชีวิตคนทั่ว ๆ ไป คนเดินคุยกันปกติ เราอยากให้เป็นหนังอารมณ์รู้สึกทีละน้อย ไม่คาดคั้น แต่สะสมความรู้สึกไปเรื่อย ๆ รู้สึกทีละหน่อยและในความทีละหน่อยของมัน สุดท้ายก็จะก่อให้เกิดพัฒนาเปลี่ยนแปลงในตัวละคร ออกตัวก่อนว่า บทพูดส่วนใหญ่ที่แซนด์พูดนี่ ผู้กำกับฯ เขียนเอง อาจจะน้ำเน่าหน่อย เพราะอยากให้ แซนด์ พูดอะไรเชย ๆ แต่จริงใจ เราต้องการให้เขาเป็นผู้ชายเชย ๆ บ้าน ๆ เหมือนเด็กหนุ่มต่างจังหวัดที่ไปหลงรักสาวลูกครึ่ง แต่ในชีวิตจริง ตัวผมเองคงทำไม่ได้อย่างแซนด์หรอก ถ้าผมมีความรัก ผมจะลุยไปแล้ว อยากบอกรักก็บอกไปเลย อยากทำอะไรรีบทำ เวลาผมมีน้อย (หัวเราะ)"

นักตบ...เพราะรัก

"แซนด์ก็ไม่ได้ต่างจากตัวฟลุคมากนัก เรามีความคล้ายกันอยู่แล้ว อย่างบุคลิกสบาย ๆ เป็นเด็กกวน ๆ เวลาแสดงเป็นแซนด์ ก็เหมือนเอาบุคลิกท่าทางตัวเรามาสวมบทนี้เลย สนุกสนานมาก ถึงจะเป็นหนังเรื่องแรกของฟลุค แต่ทุกคนที่แสดงด้วย ต่างก็เล่นหนังเรื่องแรกกันทุกคนเลย แล้วทุกคนตั้งใจกันมาก ฟลุคก็น่าจะทำให้ดีที่สุดที่ตัวเองทำได้ อย่างเดียวที่เกร็งในการทำงานเรื่องนี้ ก็ตรงที่รู้สึกว่า เราไม่ได้หล่อ ซาร่าจะมองเรายังไงหนอ (หัวเราะ) ก็เกรง ๆ ใจอยู่ ฟลุคเข้าใจผู้ชายอย่างแซนด์นะ เพราะอายุพอ ๆ กัน ความคิดอ่านไม่ห่างกันเท่าไร แต่ถ้าเป็นฟลุค ฟลุคก็คงทำไม่ได้อย่างแซนด์"

"ทั้งที่ไม่ใช่หนังเศร้า แต่ทำงานเรื่องนี้ ซาร่าเสียน้ำตาไปเยอะตลอดการถ่ายทำ ซาร่ารู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นตัวเน็ทไปเลย เพราะกดดันมากที่ต้องเล่นเป็นนักวอลเล่ย์บอล เตรียมตัวเยอะสุด ๆ ต้องฝึกซ้อมทุกวันกับโค้ชวอลเล่ย์บอลนานเป็นเดือน ฟิตร่างกาย แอ็คติ้งเวิร์คช็อบอีกหลายอย่าง 3 เดือนกว่า แล้วเขาปฎิบัติกับเราเหมือนเราเป็นนักกีฬาเลย สามวันแรกร้องไห้ตลอด ซาร่าไม่เคยเจออะไรอย่างนี้มาก่อน เขาทำเหมือนเราเป็นนักกีฬาวอลเล่ย์บอลจริง ๆ ซึ่งมันทำให้ในใจเราโกรธมาก โกรธทุกคนไปหมดเลย แล้วมันก็ใช้ได้อารมณ์นั้นเวลาแสดงได้ เพราะในบทเราเป็นคนที่โกรธทุกคนอยู่แล้ว จนถ่ายทำมาถึงตอนใกล้จะปิดกล้องแล้ว ผู้กำกับฯ เขาออกปากชมซาร่า ว่า ฉากนี้ซาร่าเล่นดีมากนะ ซาร่าแทบจะร้องไห้ตรงนั้นเลย เราอยากจะไปกราบเท้าเลย ดีใจมาก เขาชมเรา ซาร่าถือว่า ทำงานหนังเรื่องคุ้มค่า เพราะประสบการณ์มันดีจริง ๆ แล้วมันผ่านไปได้ด้วยดี เราถือว่าเราได้อะไรมาเยอะมากจากประสบการณ์การแสดง การเล่นกีฬา ซาร่าถือว่า เราทำหน้าที่เราเกินร้อยแล้ว"

"ที่ลูกหมีตกลงรับเล่นเรื่องนี้ เพราะชอบบท เป็นเรื่องเกี่ยวกับกีฬา เราเล่นกีฬาทุกอย่างอยู่แล้ว จึงง่ายต่อการตัดสินใจ แต่การเล่นวอลเล่ย์บอลบนพื้นทรายจะเหนื่อยและหนักกว่าเล่นในโรงยิมฯ นะ มันต้องใช้กำลังขาเยอะกว่า พื้นทราย แสงแดด และลม จะทำให้เราเพลียง่าย ขนาดลูกหมีเป็นนักกีฬาก็ยังต้องเตรียมร่างกายหนักมาก ลูกหมีห่วงอยู่อย่างเดียว คือ เรื่องสีผิว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว เพราะลูกหมีเป็นคนผิวเข้มอยู่แล้ว ทาครีมกันแดดก็เอาไม่อยู่ พอตอนถ่ายฉากแข่งมองไปในสนาม เห็น เราจะดำอยู่คนเดียว ซาร่า ไอซ์ แหม่ม เขาขาวกันหมด (หัวเราะ)"

ติว-ศิวัส นฤภัย (23 ปี)

"ผมหนักใจมาก ตรงเราเป็นคนพูดเก่ง พูดมาก พีทเป็นคนมีอะไรในใจ คำพูดที่พูดก็จะมีอะไรแฝงอยู่ ไม่แสดงออกทางสีหน้ามาก คำพูดการใช้เสียงก็เลยลำบาก พีทเป็นอีกด้านหนึ่งของตัวผมแล้ว การเล่นหนังไม่เหมือนเล่นละครเลย หนังมันคือความต่อเนื่อง ไหลรื่นไปปล่อยตามสบาย แต่ผมโชคดีมากได้พี่เป้ง ผู้กำกับฯ ช่วยคอยแนะนำ ผมว่า เวลาคนเราหลงใหลในเรื่องใดเรื่องหนึ่งจะดูเท่ห์ อย่างเวลาเราดูนักกีฬา เราจะเห็นว่า บางทีเขาไม่ต้องสวย แต่ความแข็งแรง ความน่าหลงใหลในกีฬา ทำให้เขาดูดี ทักษะท่วงท่าเขาจะทำให้เขาดูน่าหลงใหล กีฬามันมีเสน่ห์ในตัวมัน น่าติดตาม จริง ๆ ผมอยากจะให้เพื่อน ๆ หันมาเล่นกีฬากัน ผมว่าเวลาคนเราหลงใหลในกีฬาแล้ว มันเท่ห์มาก น่าภูมิใจ"

 แหม่ม-มารีออน อัฟโฟลเทอร์ (23 ปี)

"แหม่มชอบบทโอปอล เพราะโอปอลเป็นคนใจดีคล้าย ๆ นิสัยของแหม่ม แต่บางเรื่องตัวแหม่มคงไม่ยอมเหมือนกับโอปอล คือ อาจจะยอมบ้างไม่ยอมบ้าง เพื่อนนักแสดงที่แหม่มชอบมากคือ พี่เจเน็ต เขียว เพราะว่าแสดงเก่งมาก ขำมาก ๆ แต่ก็แฝงอะไรเอาไว้ด้วย แหม่มชอบเรื่องราวของ 'เพราะรัก ครับผม' ทุกคนก็มีปมในใจ เน็ท โอปอล พีท เรย์ แซนด์ มีปมในใจหมด แต่ทุกคนก็ไม่ได้สมหวังไปหมดทุกอย่าง อย่างเรื่องชัยชนะที่เรามุ่งไปเพื่อชนะมันอย่างเดียวมันไม่ได้ มันต้องเผื่อใจไว้บ้าง"

ไอซ์-อภิษฎา เครือคงคา (19 ปี)

"บทน้ำหวานในเรื่องจะต้องมั่นใจว่า ฉันเก่ง ฉันต้องไม่แพ้ แต่ตอนถ่ายหนัง ไอซ์จะแบบสงสารตัวเองมากเลย เพราะเราไม่ได้เก่งอย่างน้ำหวาน ก่อนเปิดกล้องก็ต้องตัดผม ไอซ์แทบจะร้องไห้ พอมาซ้อมวอลเล่ย์บอลก็กดดันมาก ๆ ตอนนั้นชีวิตเหมือนในมิวสิควีดีโอเลย แอบไปร้องไห้ ไม่ให้โค้ชเห็น ถ่ายหนังก็เจ็บตัวตลอด เล่นกับซาร่าเขาก็เล่นจริง มีฉากที่เน็ทเขามีโมโหเรา แล้วเราไปยื่นขวาง แล้วมือเขาผลัก กระแทก ไอซ์ ก็เจ็บ จุก แต่ก็ฝืนเล่นต่อ อีกฉากหนึ่ง ซาร่าต้องผลักเราไปกระแทกกระจก เสียงดังมาก ทุกคนตกใจ แล้วต้อง ซ้อมหลายทีด้วย ครั้งหนึ่ง น้องที่เล่นฉากแข่งขันเขาเป็นนักกีฬาจริง ๆ เขาตบลูกบอลโดนหน้าไอซ์ดังปั๊ก มึนไปเลย ไอ้ที่เขาบอกว่า เห็นดาวเป็นยังไง หนูรู้แล้ว"

นงนุช สมบูรณ์ (เจเน็ต เขียว)

"เจ๊แต๋วเป็นเจ้าของบาร์พัทยา จะคอยสอน คอยให้คำแนะนำเรื่องความรักกับน้อง ๆ ตัวเจ๊เองก็ผิดหวังเรื่องความรักครั้งแรกมาก่อน คาแร็คเตอร์ตัวนี้ก็จะเป็นแบบคนคอยเชียร์ให้เขาคืนดีกัน เป็นคนพูดไม่เพราะแต่จริงใจ จะเหมือนผู้ใหญ่กวนๆ พูดจาโผงผางโวยวาย แต่เป็นคนที่พูดความจริง หวังดีกับน้อง ๆ ความน่ารักของหนัง 'เพราะรักครับผม' อยู่ตรงที่เป็นหนังความรักวัยรุ่น สดใส มีแง่คิด เฉพาะลูกหมี ซาร่า ก็น่ารักแล้ว เจเน็ตก็น่ารักนะคะ"