Home » » เกิดมาลุย

เกิดมาลุย

 

  • Director: พันนา ฤทธิไกร
  • Starring: ชูพงษ์ ช่างปรุง, นพพล โกมารชุน, สันติสุข พรหมศิริ

เกิดมาลุย (BORN TO FIGHT)


เนื้อเรื่องย่อ: เดี่ยว ตำรวจลับของรัฐบาลที่เสียเพื่อนร่วมงานในปฏิบัติการที่ผิดพลาด เขาเดินทางไปร่วมพิธีทำบุญในหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งร่วมกับคณะนักกีฬา แต่เมื่อผู้ก่อการร้ายจู่โจมเข้ามายึดหมู่บ้าน พร้อมขนหัวรบนิวเคลียร์เข้ามาขู่จะยิงถล่มกรุงเทพ หากทางการไทยไม่ยอมปล่อยตัวหัวหน้าขบวนการยาเสพติดข้ามชาติ เดี่ยวและพรรคพวกนักกีฬาไทย ต้องใช้ความสามารถในการต่อสู้เพื่อล้มล้างปฏิบัติการชั่วร้ายของโจรกลุ่มนี้

นักแสดง:

ชูพงษ์ ช่างปรุง .... เดี่ยว 
นพพล โกมารชุน .... นายพลหยาง 
สันติสุข พรหมศิริ .... ล่อเฟย 
ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน .... ตุ๊ก 
สมรักษ์ คำสิงห์ .... ทับ 
อมรเทพ แววแสง .... หมู 

ความยาว: 100 นาที
ระบบถ่ายทำ: ฟิล์ม 35 มม., สี
วันที่เข้าฉาย: 5 สิงหาคม 2547

อำนวยการสร้าง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ
ควบคุมงานสร้าง ปรัชญา ปิ่นแก้ว, สุกัญญา วงศ์สถาปัตย์
บทภาพยนตร์ พันนา ฤทธิไกร
กำกับการแสดง พันนา ฤทธิไกร (เกิดมาลุย,ซิ่งวิ่งลุย,ปลุกมันขึ้นมาฆ่า,
องค์บาก,บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม)
ออกแบบกำกับคิวบู๊ พันนา ฤทธิไกร(เกิดมาลุย,ซิ่งวิ่งลุย,ปลุกมันขึ้นมาฆ่า,เด็กเสเพล,อั้งยี่,อินทรีแดง
แก็งค์กระแทกก๊วน,องค์บาก,บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม)
ออกแบบงานสร้าง ดุสิต อิ่มอ่วม (เฮี้ยน,บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม)
กำกับภาพ สุรเชษฐ์ ทองมี
ลำดับภาพ ฐานพัฒน์ ทวีสุข
แนวภาพยนตร์ แอ็คชั่น- ดราม่า

 

เกิดมาลุย รอบปฐมทัศน์โลก

เขียนโดย อี๊หก รักทุกคน
พุธ, 04 สิงหาคม 2004

...ดีใจจริง ๆ นาน ๆ ฉันจะได้ไปเปิดหูเปิดตา เจอะเจอดาราตัวเป็น ๆ ซักที แต่ไม่วายมีปัญหา...ซะงั้น

...เรื่องของเรื่องก็คือว่า เมื่อคืนวานนี้ (3 ส.ค.) เขามีรอบสื่อมวลชนเปิดตัวหนังไทยแอ็คชั่นเสี่ยงตายฟอร์มใหญ่เรื่อง เกิดมาลุย ที่โรงย่านบางกะปิ มีใครบางคนโทรมาบังคับแกมขู่ให้ไปดูให้ได้ เขาว่า "หนังเขามันส์จริง ๆ" กอปรกับฉันว่างพอดี ก็เลยตอบรับอย่างเสียไม่ได้ว่า "ไปก็ได้" (แต่ในใจคิดว่า "อุ๊ยยย...ต้องไปขอลายเซ็นต์น้องเดี่ยว, พี่พันนา, อาตู่, พี่หนุ่ม, พี่ตุ๊ก ฯลฯ ให้ครบให้ได้ ลัล ลา...")

...ด้วยความขี้เกียจของฉัน ที่ไม่อยากไปรอนานก็เลยไปซะ 1 ทุ่ม 20 นาที เพราะเขาว่าหนังฉายทุ่มครึ่ง แต่ปรากฏว่า พอฉันไปถึง พิธีการช่วงแรกเพิ่งจะจบไป ฉันเริ่มเอะใจ แต่ก็ไม่อยากคิดร้ายเกินไปนัก ก็เลยเดินทอดน่องเดินชมตามบูธต่าง ๆ ไม่รู้ว่าเพราะฉันเดินเร็วเกินไป หรือบูธต่าง ๆ เรียกร้องความสนใจของฉันได้อย่างมากล้น ฉันเลยใช้เวลาเดินรอบงานเพียง 3 นาที (-_-") เอาเถอะ เดินวนอีกรอบแล้วกัน...เอาน่า เดินรออีกหน่อย...สรุปแล้ว ฉันเดินรอบงานร่วม 10 รอบ แต่หนังก็ยังไม่ได้ฉาย เพราะบนเวทีเพิ่งจะเริ่มพิธีการช่วงที่สอง คือ คุยกับนักแสดงทั้งหลายแหล่อยู่

..."ไหนบอกหนังฉายทุ่มครึ่งไง ฮึ" ฉันเริ่มหงุดหงิดอยู่ในใจ แต่เอาเถอะ ฟังนักแสดงเขา "อวย" เอ้ยยยย...พูดคุยกันหน่อยแล้วกัน เหมือนกันกับบูธต่าง ๆ คือ เรียกร้องความน่าสนใจจากฉันได้อย่างมากมายจริงๆ ฉันเลยไม่อยู่ฟังต่อละ ขอตัวไปทานไอศกรีมแถว ๆ นั้นก่อนแล้วกัน...ทานไป ดื่มด่ำกับเสียงนักแสดงไป อุ๊ยยย บรรยากาศสุดยอด อย่าให้เซดเลย

..."แต่ไหนว่าหนังฉายทุ่มครึ่งไง ฮึฮึ" ฉันกินไอติม...เอ่ออออ ฉันหมายถึง ทานไอศกรีมน่ะ ทานเสร็จไปหนึ่งชามใหญ่ ๆ ก็ปาเข้าไป 2 ทุ่มกว่าแล้ว แต่หนังก็ยังไม่ฉาย จนแล้วจนรอดรอไป 3 ทุ่มกว่า ก็เห็นผู้กำกับและโปรดิวเซอร์ ฉันหมายถึง คุณพันนากับคุณปรัชญา ไงเธอ ฉันเห็นทั้งคู่วิ่งหน้าตั้งมาจากโรงหนังแถว ๆ ราชดำริ อะไรแถวๆ นั้น ถามไถ่คนแถว ๆ นี้ก็เลยรู้ว่า หนังเขายิ่งใหญ่มาก ๆ ก็เลยต้องเปิดรอบปฐมทัศน์โลกถึง 2 โรง 2 ย่าน ให้วุ่นเล่น ๆ แล้วมันก็วุ่นสมใจ เพราะทั้งผู้กำกับและโปรดิวเซอร์คู่ใจ ฉันหมายถึง...เอ่อออออ เธอคงรู้แล้วเนอะ งั้นฉันขอผ่านชื่อเลยนะ อิอิ ทั้งคู่ต้องวิ่งมาแก้สถานการณ์พูดคุยทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนว่า "ฟิล์มหนังมีปัญหานิดหน่อย เพราะแล็บทำไม่เสร็จ หรืออะไรนี่แหละ ฉันก็ไม่ค่อยเก็ทเรื่องเทคนิคอะไรซักเท่าไรหรอก แต่ฉันก็แค่สงสัยว่า จะจัดงานใหญ่ทั้งที ทำไมไม่มีความพร้อมเอาซะเลย ฉันเบื่อ ฉันเซ็งจริง ๆ"

...แต่ฉันก็รอดูนะ แหม ก็ของฟรีน่ะ แถมเสียค่ารถมาเป็นร้อย มากกว่าค่าตั๋วไปดูเองซะอีก ก็เลยรอซะหน่อย และแล้ว เฮ้ ๆ ๆ หนังได้ฉายแล้ว ฉันดีใจจนน้ำตาคลอเบ้า ฉันหาวง่วงน่ะ ไม่ได้ซึ้งอะไรหรอก แต่แล้ว ดู ๆ ไป หนังก็ดันดับไปเฉย ๆ แต่อันหลังนี้ฉันเตรียมใจไว้แล้ว เพราะคุณปรัชญาเขาบอกไว้แล้วว่า "ฟิล์มหนังมีปัญหานิดหน่อย ต้องเสียเวลาโหลดฟิล์มอีก 20 นาที" ฉันเตรียมใจไว้แล้ว ฉันทำใจได้ ไม่เป็นไรเธอ ไม่เป็นไรเลยจริง ๆ ฉันถือซะว่าเป็นการรีแล็กซ์เปลี่ยนบรรยากาศก็แล้วกัน เพราะทุกทีฉันเคยแต่พักครึ่งกับหนัง 3 ชั่วโมง แต่นี่หนังยาวชั่วโมงครึ่งแต่มีพักเบรกด้วย หาไม่ได้ง่าย ๆ นะเธอ

..."แหม ไหนบอกฉันว่าหนังฉายทุ่มครึ่งไง ฮึฮึฮึ" แต่นี่กว่าจะฉายล่อเข้าไปเกือบ 4 ทุ่ม ยังดีนะ ฉันนึกว่าจะได้ดูรอบมิดไนท์ซะแล้ว รวม ๆ แล้ว ฉันเสียเวลากับหนังความชั่วโมงครึ่งนี้ไปแค่ 5 ชั่วโมงกว่า ๆ เอง นิดหน่อยเนอะเธอ ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจได้...จริง ๆ

...เอาเถอะ มาเข้าถึงตัวหนังกันซักเล็กน้อยก่อนจากดีกว่า "ฉันชอบนะ" อันนี้ฉันพูดจากใจจริง ๆ ไม่ได้ประชดใด ๆ ทั้งสิ้น หนังตีโจทย์ของตัวเองแตกว่าต้องการจะขายอะไร แล้วก็มุ่งหน้าเดินตรงสู่จุดหมายนั้นโดยไม่มีลังเลแม้แต่น้อย แอ็คชั่นเสี่ยงตายกันทั้งเรื่องตามความตั้งใจได้อย่างดีเยี่ยม เห็นขายแอ็คชั่นอย่างนี้ก็เหอะ แต่หนังก็มีการปูเรื่อง ปูแบ็คกราวน์ตัวละคร และความเป็นมาเป็นไปได้ตามมาตรฐานที่หนังเรื่องหนึ่ง ๆ ควรจะมี แม้ในเนื้อเรื่องบางฉากบางตอนจะทำให้คนดูรู้สึกประดักประเดิกยังไงชอบกลจนต้องหัวเราะออกมาบ้างก็ตาม แต่คนดูไม่มีเวลามานั่งคิดให้เสียเวลามากนัก เพราะหนังกระหน่ำฉากแอ็คชั่นตามติดมาอย่างเป็นชุด แบบชุดใหญ่ ๆ เลยทีเดียว โดยรวมแล้ว หนังออกมาเป็นสไตล์ชาวบ้าน ๆ ซื่อ ๆ ไม่มีพิษมีภัย รักชาติก็รักแบบใสซื่อ ร่วมกันร้องเพลงชาติไทยก่อนที่จะตะลุยกองโจร ก็รักชาติน่ะ แม้จะถูกโจรจับอยู่ แต่เวลา 8 นาฬิกา ก็ต้องร้อง "ประเทศไทย รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย..." สิ ร้องเพลงชาติเป็นการเรียกขวัญกำลังใจก่อนไม่ได้เหรอไง ก็บอกแล้วว่า หนังซื่อ ๆ ดี ฉันชอบ ชอบมากกว่า "หนังพี่โทนี่ จ๊ะ" เรื่องนั้นเสียอีก

...ฉากแอ็คชั่นเสี่ยงตายก็ไม่ต้องพูดถึง มีเครดิตทีมงาน "องค์บาก" รับประกันความสะใจ แม้ความเป็นเหตุเป็นผลในบางช่วงจะอ่อนไปเสียหน่อย ฉันก็ไม่ถือสาหรอก เพราะหนังเดินมาถูกทางอย่างที่ "หนังแอ็คชั่นเสี่ยงตาย" เรื่องหนึ่งควรจะเป็นแล้ว ขายฉากแอ็คชั่นแบบเน้น ๆ ขายดาราหน้าใหม่แบบเพียว ๆ "เดี่ยว ชูพงษ์ ช่างปรุง" นักสู้เลือดใหม่ที่ทางทีมงานเตรียมความพร้อมกันอย่างสุดฤทธิ์ว่า ยังไงซะหนังต้องโกอินเตอร์เป็นแน่แท้ ชื่อ "เดี่ยว" ฝรั่งตาน้ำข้าวคงเรืยกกันลำบาก ต้องนี่เลย "Dan Chupong" โอ้ว แดน...โอ้ว แดน

...ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่านี่คือ หนังเรื่อง "เกิดมาลุย" ที่มีแฟนประจำเวอร์ชั่นเก่า รอคอยอยู่แล้ว...ไม่ดังก็ให้มันรู้ไปสิ

...ใครอยากผ่อนคลาย ดูหนังไทยสไตล์ซื่อ ๆ ไม่มีพิษภัย ตามตรรกะที่ฉันว่าไป ฉันขอแนะนำเลยว่า "ไปดูเหอะ ไม่ผิดหวังหรอก" แต่ถ้าใครดัดจริตหัวสูง เอ่อออออ...ฉันหมายถึง ใครที่ชอบหนังพื้น ๆ สไตล์ยุโรป อาร์ทสุดขั้ว ก็ไปดูเหอะ เอ้ยยยย...ก็อย่าไปดูเลย เพราะเดี๋ยวหัวต่ำลงมา 1 มิล อายเขาตายเลย.

Share this article :

แสดงความคิดเห็น