คุณคิดว่า…ทุกครั้งที่เราตื่นขึ้น…ชีวิตที่เป็นอยู่…เป็นเรื่องจริงหรือเป็นแค่ความฝัน
บางครั้ง…หลาย ๆ คนนึกอยากให้สิ่งที่เราเห็นเมื่อลืมตา…เป็นแค่เพียงความฝันตื่นหนึ่ง
เส้นแบ่งระหว่างเรื่องจริงกับสิ่งสมมุติ…อยู่ที่ตรงไหน
ในเมื่อทุก ๆ คน…พยายามที่จะคิด … พยายามที่จะทำ
พื่อทุก ๆ ครั้งที่ตื่นขึ้นมา…จะได้พบว่า…ชีวิตที่เห็น…และสิ่งที่เป็นอยู่นั้น…คือชีวิตที่ดีที่สุด
ทั้ง ๆ ที่ในความจริง…โลกที่รออยู่…อาจจะไม่ใกล้เคียงเลยกับสิ่งที่เรียกว่าดี
อะไรคือทางออกที่ดีที่สุด…ในการใช้ชีวิต
มีความสุขอยู่กับความฝันในโลกที่เราสร้าง
หรือยอมรับให้ได้กับความเจ็บปวดในสิ่งที่เป็นจริง
เรื่องย่อ
มีคนเคยกล่าวว่า…ความรักสามารกชักนำเราไปในทิศทางที่หลากหลาย…แต่มันขึ้นอยู่กับว่าความรักที่เราได้ค้นพบนั้น…เป็นความรักในรูปแบบใด
เรื่องราวแห่งความรักระหว่างอิงอร, กฤช และแพรเด็กหญิงวัย 7 ขวบ เกิดขึ้นในสถานการณ์ที่ถูกบังคับ เมื่ออิงอรต้องจำยอมพาแพรซึ่งเป็นลูกสาวไปพบกฤชเพื่อวินิจฉัย…
กฤช แพทย์หนุ่มผู้ที่มีแต่ความหดหู่อาลัยในชีวิต และนั่นเป็นครั้งแรกที่กฤชได้พบกับอิงอรและแพรเด็กสาวที่น่าสงสาร
ในระหว่างการรักษา อิงอรได้เพียรปฏิเสธคำวินิจฉัยของกฤชที่มีต่อแพรโดยตลอด ด้วยความหวงกลัวจะมีใครมาพรากลูกไปจากตน อิงอรจึงปฏิเสธที่จะให้แพรมาพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตามคำแนะนำของกฤช ด้วยความที่แพรอายุใกล้เคียงกับลูกของกฤช ทำให้กฤชรู้สึกสงสารและผูกพันเป็นพิเศษ จึงเป็นเหตุผลที่กฤชยอมไปรักษาแพรที่บ้าน
แต่ต่อมา…เมื่อกฤชยิ่งเข้าไปใกล้ชิดกับครอบครัวนี้มากขึ้น กฤชกลับรู้สึกว่าอิงอรเหมือนเป็นคนที่เขาค้นหามาตลอด…ทุกครั้งที่อยู่ใกล้…ไฟแห่งราคะพร้อมที่รุกโชนในทุกครา
ในขณะที่อิงอร…หญิงหม้ายที่เติบโตมาจากห้วงบาปแห่งชีวิต เปรียบผู้ชายดั่งสัตว์ที่มีผู้หญิงไว้เพียงบำบัดความใคร่ จึงจำเป็นที่จะต้องปกป้องลูกของตนจากผู้ชายทั้งปวง แพรจึงเป็นเพียงเด็กน้อยที่ในชีวิตไม่เคยมีใครอื่นนอกจากแม่
ด้วยความรักและเอ็นดูของกฤชที่มีต่อแพร ทำให้อิงอรเริ่มมีความรู้สึกที่ดีกับกฤชแบบที่ไม่เคยได้รู้สึกกับผู้ชายคนใดมาก่อน แต่เมื่อความสัมพันธ์ของเขาทั้งสองเพิ่มมากขึ้นเท่าไร กำแพงแห่งความกลัวของอิงอรกลับยิ่งเพิ่มสูงขึ้นเท่านั้น
การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันทางอารมณ์ที่เกรี้ยวกราดของอิงอร การเลี้ยงลูกที่ประหลาดกว่าที่คนทั่วไปคิดจะทำ..สิ่งหนึ่งที่กฤชสัมผัสได้จากความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นในครอบครัวนี้คือ..ความรักที่ไม่ปกติชวนผวาได้ตลอดเวลา
สาเหตุเกิดจากอะไร..เกิดจากใคร..นั่นเป็นเรื่องที่กฤชต้องหาคำตอบ
ทีมงานสร้าง : เอจี เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (บริษัทผู้สร้าง-จัดจำหน่าย) / ไว-ไฟ (บริษัทดำเนินงานสร้าง) / สมศักดิ์ ทรงธรรมากุล (อำนวยการสร้างฝ่ายบริหาร) / สุรวดี ทิพยมงคล (ควบคุมงานสร้าง) / ต่อพงศ์ ตันกำแหง (ผู้กำกับภาพยนตร์) / ต่อพงศ์ ตันกำแหง, กานต์ หงษ์ทอง (บทภาพยนตร์) / วินัย ปฐมบูรณ์ (กำกับภาพ) / สมิทธิ์ ทิมสวัสดิ์ (ลำดับภาพ) / สิรีธร นิลมงคล (กำกับศิลป์) / กนกกร นาครัตน์ (ออกแบบเครื่องแต่งกาย) / BRUNO BRUGNANO (ดนตรีประกอบ)
นำแสดงโดย: ใหม่ เจริญปุระ, อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม, ภารุจีร์ เข็มสวัสดิ์, อดุลย์ ดุลยรัตน์, สุพจน์ พงษ์พรรณเจริญ, ราชวัติ ขลิบเงิน, ซัน คัมภิรานนท์
CAST
อิงอร (รับบทโดย ใหม่ เจริญปุระ) – หญิงหม้ายลูกติดผู้มีบุคลิกสง่า ภูมิฐาน แต่อีกด้านของชีวิตที่เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดรุนแรงของภาวะอารมณ์ที่ถูกหมักหมมจากปมอดีตของชีวิต
กฤช (รับบทโดย อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม) – จิตแพทย์หนุ่มผู้เฉยชากับสิ่งรอบข้างเหมือนคนที่ผ่านความเจ็บปวดครั้งใหญ่ในชีวิต
แพร (รับบทโดย ซัน คัมภิรานนท์) – เด็กหญิงวัย 7 ขวบที่เติบโตมาพร้อมกับความผิดแปลกในการเลี้ยงดูของแม่ โลกของแพรจึงมีแต่บ้าน ทุกอย่างในบ้านถูกหล่อหลอมให้แพรเป็นตามแบบแม่ เฉกเช่นเดียวกับโลกของแม่ที่มีแต่แพร
ระริน (รับบทโดย ภารุจีร์ เข็มสวัสดิ์) – ภรรยาสาวของกฤชเปรียบเหมือนแสงแดดอ่อนยามเช้าที่ทำให้ชีวิตของกฤชสดใส
เทพ (รับบทโดย ราชวัติ ขลิบเงิน) – นายตำรวจเพื่อนรักของกฤชผู้ติดตามพฤติกรรมของอิงอรอย่างใกล้ชิดดั่งเป็นเงาซ้อนระหว่างอิงอรและกฤช
โปรเฟสเซอร์ (รับบทโดย อดุลย์ ดุลยรัตน์) – อาจารย์ของกฤชที่กฤชต้องขอคำปรึกษาเพื่อหาทางสว่าง
EXECUTIVE PRODUCER : สมศักดิ์ ทรงธรรมากุล
ตำแหน่งบริหาร C.E.O. บริษัท บี.เค.พี 1990 จำกัด
C.E.O. บริษัท บี.เค.พี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
C.E.O. บริษัท เอ.จี.เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
C.E.O. บริษัท อินคำ จำกัด
กรรมการกลาง สมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ
อุปนายกสมาคมคนที่ 1 สมาคมอุตสาหกรรมเพลงไทย
นายกสโมสรโรตารี่ พระปิ่นเกล้าธนบุรีปี 2550 – 2551
อำนวยและควบคุมการสร้าง ภาพยนตร์เรื่อง 1+1 เป็นสูญ, จี้, เดอะเลตเตอร์ ภาพยนตร์เรื่อง เขียนเป็นส่งตาย, ยังไงก็รัก (7 Days to Leave My Wife), อรหันต์ซัมเมอร์, เมมโมรี่ รัก..หลอน
DIRECTOR: ต่อพงศ์ ตันกำแหง
แสดงความคิดเห็น