สัจจะต้องรักษา ความแค้นต้องชำระ
คำสัญญาจึงต้องทวงถาม ต่อให้เหลือซากกะแค่ไม้จิ้มฟัน…
เรื่องย่อ
…“เจ้าพ่อต้นไทร” สิ่งศักดิ์สิทธิ์สุดเฮี้ยน ประจำซอยชื่อดี ฟังมงคล “ซอยสุขคติ” ลือกันนมนานว่า เจ้าพ่อเป็นนายทหารเก่าที่มีเกียรติยศ เป็นคนเฉียบขาด ยึดมั่นสัจจะแบบนายทหาร แต่ตายอย่างผิดธรรมชาติ ก่อนเวลาอันควร จึงเป็นผีเจ้าพ่อสิงสถิตย์ที่ต้นไทรไม่ไปไหน ทั้งเฮี้ยน ทั้งศักดิ์สิทธ์ ผู้คนมากราบไหว้บนบาน
…เอก (บริวัตร อยู่โต), แว่น (ธีพร วีระจิตเอกวิชัย), ดอน (เฮนรี่ เดอ มาร์เซียค์) และ โม้ (นพดล ซอยสกุล) กลุ่มนักเรียนมัธยมที่ทำตัวเหลวไหล วัน ๆไม่เคยท่องหนังสือเรียน สมคบกับ พี่ควายน้อย (อี๊ด โปงลางสะออน) มอ’ไซค์วินเจ้าประจำ คอยมาร่วมก๊วนเหลวไหลด้วยประจำ
…วันสอบเอนทรานซ์ใกล้เข้ามา ความที่ไม่เคยท่องหนังสือเรียน เอาแต่เที่ยวเล่น ดริงค์ดื่ม เหล่หญิง เอกและเพื่อน ๆ อยากเอนทรานซ์ติด จึงหันมาพึ่ง “เจ้าพ่อต้นไทร”
…แค่จุดธูปบนบาน “เจ้าพ่อต้นไทร” ไม่นาน ทุกคนก็สมหวัง ไม่ว่าจะเรื่องเรียน เรื่องหญิง น้องเบลล์ (แอนนา-ปรางค์ทิพย์ เศวตประสาธน์) ที่ดอนเหล่มานาน ก็สอยมาอยู่ข้างกาย พี่ควายน้อยเองก็พลอยได้มอเตอร์ไซค์คันใหม่
…ถึงเวลาต้องแก้บน เกิดเหตุไม่คาดฝัน…“ต้นไทร” ถูกตัดหายไปแล้ว !!!
…ต้นไทรหายไป เอก และเพื่อน ๆ ยังไม่ได้แก้บน “เจ้าพ่อต้นไทร” ชีวิตทุกคนที่บนบานไว้ ถูกคุมคามด้วยเหตุร้ายต่าง ๆ ราวกับมีสายตาน่ากลัวคู่หนึ่ง คอยจ้องมองอยู่ตลอดเวลา แต่ละคนเจอเหตุร้าย ชวนให้ขนลุกตาม ๆ กัน
…เอกและเพื่อน ๆ เริ่มปฏิบัติการตามล่าหาต้นไทร ไม่ว่าเศษเสี้ยวชิ้นส่วนของต้นไทรจะยังอยู่ที่ไหน ต้องหาให้เจอ เพราะนี่คือ หนทางเดียวที่จะช่วยให้พ้นจากการถูกผีหลอกไปตลอดชีวิต
…ว่าแต่ จะให้แก้บนกับอะไรล่ะโต๊ะ เก้าอี้ เขียงสับหมู ไม้เกาหลัง ไม้กวาด ไม้แขวนเสื้อ ไม้ตะเกียบ ไม้เสียบลูกชิ้น หรือ จะต้องแก้บนกับเจ้าไม้เล็ก ๆ กระจอก ๆ กระจิ๋วหลิวอย่าง เจ้า “ไม้จิ้มฟัน” เนี่ยนะ ?!??
ทีมงานสร้าง : ตลก (แนวภาพยนตร์) / อาร์เอสฟิล์ม (บริษัทผู้สร้างและจัดจำหน่าย) / อาวอง (บริษัทสร้างสรรค์) / เกรียงไกร–สุรชัย เชษฐโชติศักด (อำนวยการสร้างฝ่ายบริหาร) / จันทิมา เลียวศิริกุล, มณฑล อารยางกูร (ควบคุมงานสร้าง) / ปิยะพันธุ์ ชูเพ็ชร์ (ผู้กำกับภาพยนตร์) / ปิยะพันธุ์ ชูเพ็ชร์ (เรื่อง) / พิสุทธิ์ แพร่แสงเอี่ยม (บทภาพยนตร์) / สิทธิพงษ์ กองทอง (กำกับภาพ) / ชาญศักดิ์ ลีลาเกษมสันต์ (ควบคุมความต่อเนื่อง) / ปริญญา งามวงศ์วาน (ผู้ช่วยควบคุมความต่อเนื่อง) / ยุทธนา โพธิโชติ (ออกแบบงานสร้าง) / ประวิทย์ สุโพธิ์ (กำกับศิลป์) / ปิยะพันธุ์ ชูเพ็ชร์ (ลำดับภาพ) / น้ำผึ้ง โมจนกุล (ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย) / อดิช เยี่ยมฉวี (ช่างแต่งหน้าและเอฟเฟ็กต์) / วรรณา เสือสังข์ (ช่างทำผม) / ธนะพร อาคมานนท์ (ภาพนิ่ง) / ธรณ์ธัญญ์ โพล้งพลับ, ปรีเทพ บุญเดช (บันทึกเสียงการถ่ายทำ) / ไจแอนท์ เวฟ (ดนตรีประกอบ) / ปิยะพันธุ์ ชูเพ็ชร, ฉัตรชัย นครวงษ์ (ดูแลงานโพสต์โปรดักชั่น) / บริษัท สวีทอายส์ จำกัด (เทคนิคพิเศษด้านภาพ) / เดอะโพสต์ บางกอก (เทคนิคฟิล์มแล็บ) / ด็อกเตอร์ เฮด (สร้างสรรค์งานโฆษณา)
นำแสดงโดย : ฉัตรชัย เปล่งพานิช, บริวัตร อยู่โต, สมพงษ์ คุนาประถม, เฮนรี่ เดอ มาร์เซียค์, ธีพร วีระจิตเอกวิชัย, นพดล ซอยสกุล, ปรางค์ทิพย์ เศวตประสาธน์, อนันต์ บุนนาค
ผู้กำกับ : ปิยะพันธุ์ ชูเพ็ชร์
นักแสดง:
ฉัตรชัย เปล่งพานิช .... เจ้าพ่อต้นไทร
บริวัตร อยู่โต .... เอก
สมพงษ์ คุนาประถม .... พี่ควายน้อย
เฮนรี่ เดอ มาร์เซียค์ .... ดอน
ธีพร วีระจิตเอกวิชัย .... แว่น
นพดล ซอยสกุล .... โม้
ปรางค์ทิพย์ เศวตประสาธน์ .... เบลล์
อนันต์ บุนนาค .... ผู้พันทหาร
วันที่เข้าฉาย: 15 มีนาคม 2550
ดูหนัง ผีไม้จิ้มฟัน
ผู้สร้าง ผู้กำกับ
ขวัญหนีดีฝ่อ ยังอยากขำ โปรดิวเซอร์ เขาว่ายังไง ?
หนังผีไทยอยู่คู่กับความตลกใครๆก็รู้ แต่เหตุใด “อาวอง” บริษัทผู้ผลิตหนังไทย ต้นตำหรับหนังผีไทยร่วมสมัย อย่าง “ผีสามบาท”, “ผีคนเป็น” จึงไม่เคยทำหนังผี-ตลกเต็มรูปแบบสักเรื่อง
“ผีไม้จิ้มฟัน” จึงจุดประกายขึ้นมา เรื่องราวหนังผี-ผจญภัย สนุกสนาน จุดประกายโดย ป๊อก-พิสุทธิ์ แพร่แสงเอี่ยม และ ต้อม-ปิยะพันธุ์ ชูเพ็ชร์ พูดคุยเรื่อง การบนบานศาลเจ้าพ่อตามต้นไม้ใหญ่ และเหตุการณ์จะเป็นอย่างไร หากต้นไม้นั้นหายไป กลายสภาพเป็นสิ่งอื่น ๆ สุดคาดเดา
จันทิมา เลียวศิริกุล โปรดิวเซอร์ ผู้ควบคุมงานสร้าง บริษัท อาวอง จำกัด ผู้ซึ่งไม่เคยบนบานศาลไหน ๆ ทั้งสิ้น เพราะขอเลยทุกครั้ง เล่าว่า
“ผีไม้จิ้มฟัน เป็นหนังที่เราตั้งใจจับเสน่ห์ของหนังผีแบบไทย ๆ เรื่องความเชื่อไทยแท้ ๆ การบนบานศาลกล่าวที่เราเห็นกันอยู่ในชีวิตประจำวัน ตอนแรกที่ได้ฟังเรื่อง เราเห็นแววสนุกเลยว่า ผจญภัย สนุก แล้วพิเศษตรงที่ ไม่ใช่ผจญภัยเกินจริง เป็นผจญภัยที่ทุกคนสัมผัสได้เลย พร้อมจะสนุกไปด้วยกัน วัยรุ่นผจญผีนะ อารมณ์ตกใจก็ตกใจ วิ่งหนีก็หนี แต่จะหนีไปไหน ในเมื่อหนีไม่ได้ เหมือนถูกบีบอยู่ในพื้นที่ของมันด้วย ในหอ พื้นที่จำกัด เห็นเหลี่ยมว่า มันมีทิศทางให้เป็นหนังสนุกตลกได้ เรามองว่า อารมณ์ผจญภัยกับผีน่ะ เหนื่อยกว่า ตลกกว่า สนุกกว่าผจญภัยอย่างอื่น
หนังผีไทยต้องอยู่คู่กับความตลก ผีไม้จิ้มฟัน เป็นหนังที่เราตั้งใจจะพัฒนาเสน่ห์ของหนังผีไทย ๆ แท้ ๆ ขึ้นมาให้มีความร่วมสมัยนะ แต่มีความเป็นไทยสัมผัสได้ เลยเป็นที่มาของเรื่องนี้ และในฐานะคนอ่านบท เราก็จะมีข้อหนึ่ง คือ ขอเลยนะ ขอให้แก่นสารอะไรด้วย ซึ่ง ผีไม้จิ้มฟัน ก็มีอยู่ในตัวชัดเจนอยู่แล้ว”
ผู้กำกับภาพยนตร์-ปิยะพันธุ์ ชูเพ็ชร์ (ต้อม) ผู้ไม่เคยบน ไม่ใช่ไม่เชื่อ…แต่กลัวลืม
ผู้กำกับฯ ต้อม-ปิยะพันธุ์ ชูเพ็ชร์ เจ้าของผลงาน “จอมขมังเวทย์” ผู้ซึ่งไม่นิยมการบนบานศาลกล่าว ไม่ใช่ไม่เชื่อ แต่เพราะกลัวลืมแก้บน
“สำหรับผม ผีไม้จิ้มฟัน เป็นโจทย์ใหม่ ตลก ผจญภัย น่ากลัว ที่คนดูต้องพร้อมผจญภัยไปกับมัน บ้านเรา ทุกตรอก ซอย ที่ไหนมีต้นไม้ใหญ่ ๆ ลองไปดูซิ ต้องมีผูกผ้าไว้ ไปไหนเราก็เห็น ไม่ได้ห่างหายจากความรู้สึกคนไทยเลย ใครบอกว่า เป็นคนรุ่นใหม่ โตมายุคนี้แล้ว จะไม่เชื่อ เรื่องความเชื่อมันถูกฝังหัวกันมานานกว่านั้นมาก
เรื่องความเชื่อนี่ เป็นธรรมชาติของบ้านเรา ไม่ได้ห่างหายไปไหน เป็นรากเหง้าของคนไทย ที่ดูทีไรมันก็เออ บ้านเราก็เป็นอย่างนี้นะ คนไทยทุกระดับชั้น ด็อกเตอร์จบจากเมืองนอก อย่านึกว่า ไม่เชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่ดูหมอ บนบานศาลกล่าว
ผีไม้จิ้มฟัน เป็นเรื่องเล่าที่มีอยู่จริง ไม่ไกลตัว แต่เรื่องธรรมดามันมีความสนุก เล่าอย่างไรให้มีอะไร อ๊ะ..เอ๊ะ…เรียกให้ดูตลอด
เรื่องนี้ผมอยากทำหนังวัยรุ่น ผจญภัย ไม่น่าเบื่อ วัยรุ่นที่ไม่คิดอะไรเลย จนวันหนึ่งมันต้องหัดรับผิดชอบ ผมอยากให้สนุก ผจญภัยไปเรื่อย ๆ ต้นไม้หายแล้วไง ในระยะเวลาหนึ่ง เราสามารถเล่าเรื่องผีได้เต็มไปหมดเลย ผีในโรงหนัง ผีซ้อนมอเตอร์ไซค์ ผมมีความสุขมากเลย ผีโผล่ที่ไหนก็ได้ เล่าเรื่องไปก็สนุกไปหมด
สมัยเราเด็กๆ เรียนหนังสืออยู่ เราดูหนังจะรู้สึกสนุก ดูอะไรก็ขำ เห็นอะไรก็สนุก พร้อมจะผจญภัยไปกับหนัง แต่ผมยังอยากรักษาความรู้สึกแบบนั้นไว้ในหนัง อยากชวนให้มาผจญภัยกัน เรื่องง่าย ๆ ใกล้ ๆ ตัวนี่ล่ะ มาผจญภัยกัน”
นักแสดง
ฉัตรชัย เปล่งพานิช (เจ้าพ่อต้นไทร) – ไม่มีใครรู้ประวัติที่แท้จริงของเจ้าพ่อต้นไทร แต่ทุกคนรู้ตรงกันว่า เจ้าพ่อเป็นนายทหารเก่า เฮี้ยนและศักดิ์สิทธิ์เป็นที่สุด ใครมาบนเป็นต้องได้ แต่บนแล้วไม่แก้เป็นเรื่องแน่ เพราะขออะไร เจ้าพ่อให้หมด แต่ช่วยรักษาสัญญาที่ให้ไว้ด้วย
“รับบทเป็นเจ้าพ่อต้นไทร นายทหารเก่าที่มีเกียรติยศ เป็นคนเฉียบขาด ยึดมั่นสัจจะแบบนายทหาร วันหนึ่งเกิดตายด้วยเหตุผิดธรรมชาติ ยิ่งสร้างความดุดัน เฉียบขาด เพราะมีความแค้นฝังใจอยู่กับการตายของตัวเอง เรื่องนี้ นอกจากผู้กำกับฯ จะมีมุมมองนำเสนอน่าสนใจ พี่นกยังได้แสดงกับนักแสดงรุ่นเด็ก ๆ อย่างแจ๊ค หรือ อี๊ด โปงลางสะออน ที่มีการแสดงในแบบที่ต่าง ๆ กันไป พี่นกว่า น่าสนใจนะ แต่ละคน เป็นนักแสดงที่เก่งในแนวทางของเขาแตกต่างกันไป”
อนันต์ บุนนาค (ผู้พันทหาร) – นายทหารในอดีต กล้าหาญ รักเพื่อน แต่มีเหตุให้ต้องมาผิดใจกันในวินาทีสุดท้ายของชีวิต
“เป็นเรื่องแรกที่ได้ร่วมงานกับ พี่นก ฉัตรชัย กับ ต้อม ผู้กำกับฯ ก็เป็นประสบการณ์ที่ดี เป็นประวัติเราได้ร่วมงานกับคนเก่ง ๆ เรื่องบนบานศาลกล่าวนี่แล้วแต่คนนะ พี่เองไม่เคยบน เพราะกลัวไม่ได้แก้ เป็นเรื่องที่ใครเชื่อก็เชื่อ ไม่เชื่อก็ไม่ต้องลบหลู่ ฝากความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้ไว้ เพราะเป็นหนังที่มีเรื่องราวซ่อนอยู่ มีความสนุก น่ากลัวอยู่ด้วยกัน ต้อม-ผู้กำกับฯ ก็เป็นรุ่นน้องที่เก่ง แนวหนังก็ซ่อนเนื้อหาบางอย่างไว้ เป็นวิธีการเล่าของผู้กำกับฯเขา”
แจ๊ค-บริวัตร อยู่โต (เอก) – เด็กมัธยมปลายเข้ามาสอบเอนทรานซ์ในกรุงเทพ ฯ “เอก” เติบโตมาในหมู่บ้านที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นที่นับถือ พร้อมจะเชื่อเรื่องบนบานศาลกล่าวอยู่แล้ว แต่เอกไม่นึกว่า บนแล้วต้องแก้บน จะเป็นเรื่องซีเรียสขนาดนี้
“ผมเล่นเป็นตัวเอง (หัวเราะ) เอกในเรื่องจะเป็นวัยรุ่นมาจากต่างจังหวัด พ่อแม่ส่งมาให้เรียนในกรุงเทพ จากบ้านมาใช้ชีวิตในเมือง ตอนเด็ก ๆ นี่จะได้รับรู้ถึงเรื่องไสยศาสตร์มาตั้งแต่เล็ก ๆ แล้ว แต่ว่าพอโตขึ้นเรื่องทุกอย่างมันค่อนข้างจะเลือนหายไปแล้ว เพราะว่าต่างคนเริ่มโตขึ้นก็ไม่ได้สนใจกับเรื่องพวกนั้นไปแล้ว เรื่องของการบนบานเกี่ยวกับเจ้าพ่อเจ้าแม่ไม่ได้อยู่ในความสนใจ แล้วพอเข้ามาใช้ชีวิตในกรุงเทพก็กลายเป็นวัยรุ่นไร้สาระไปวัน ๆ
แต่ตัวเอกนี่ก็ตั้งใจจะเอนทรานซ์ให้ติด แต่ว่าไม่ถึงกับตั้งใจเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ คืออยากจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้ เพื่อน ๆ ก็เสนอหนทางหนึ่ง คือ กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็คือ ศาลเจ้าพ่อต้นไทร แต่ก็เหมือนคนสมัยนี้ ที่ไม่ได้นึกจริงจังกับคำพูดที่บนไว้ แล้วเป็นไงล่ะก็เจอดีเลย”
บริวัตร อยู่โต นักแสดง พิธีกรหนุ่มมาดเซอร์ เข้าวงการจากผลงานภาพยนตร์ของ ผู้กำกับฯ คนเก่ง “เรียว-กิตติกร เลียวศิริกุล” จากเรื่อง “โกลคลับ เกมล้มโต๊ะ” พัฒนาฝีมือจนมารับบทพระเอกเต็มตัวในภาพยนตร์เรื่อง “อหิงสา จิ๊กโก๋มีกรรม” ปัจจุบัน เป็นพิธีกรรายการเพลง และผลงานแสดงภาพยนตร์เรื่องล่าสุด “ผีไม้จิ้มฟัน” ในบทบาท “เอก” หนุ่มน้อยที่ไม่รู้เลยว่า การบนบานศาลกล่าวนั้นจริงจังกว่าที่คิด
ผลงานภาพยนตร์ – Goal Club เกมล้มโต๊ะ (2544), พรางชมพู (2545), พ.ศ. 2546 คลับซ่าส์ ปิดตำราแสบ (2546), อหิงสา จิ๊กโก๋มีกรรม (2548),พ.ศ ผีไม้จิ้มฟัน (2550)
สมพงษ์ คุนาประถม – อี๊ด โปงลางสะออน (พี่ควาย) – ซอยไหน ๆ ก็มีวินมอ’ไซค์ แต่พี่ควายไม่ใช่วินมอ’ไซค์ธรรมดา แต่เป็นวินมอ’ไซค์ที่รถมอเตอร์ไซค์เพิ่งโดนไฟแนนซ์ยึดไป ร้อนถึงต้องมาบนขอมอ’ไซค์ใหม่สักคัน กับ “เจ้าพ่อต้นไทร” และแล้วพี่ควายก็เจอว่า มอเตอร์ไซค์ที่ขอเจ้าพ่อมานี่ วันดีคืนดีก็มี “ใคร” ไม่รู้มาซ้อนท้ายด้วย
“อ่านบทตอนแรก ผมรู้สึกตกใจ ผมถามว่า ให้ผมชื่ออะไรครับ ‘ชื่อควายครับ’ โอ้โห!!! เลยครับ ผมมีปัญหากับเรื่องชื่อนานมาก ประมาณ 1 นาที (ฮา) ผมกลัวเวลาไปเล่นคอนเสิร์ต คนดูจะอิน เจอหน้าเรียก โอ้! พี่ควาย ผมก็คิด คิดนาน 1 นาที ผมก็ครับ เล่นครับ เพราะว่า ชอบสไตล์หนังของพี่ต้อมอยู่แล้วครับ ชอบตอนดู ‘จอมขมังเวทย์’ เพราะพี่ต้อมเค้าทำงานละเอียดมาก เราก็ชอบ เห็นหนังเขาได้รับรางวัลมากมาย ผมก็คิดว่าเล่นเรื่องนี้ผมจะได้รับรางวัล (หัวเราะ)
บทพี่ควาย เป็นพี่ใหญ่ของน้อง ๆ เป็นวินมอเตอร์ไซต์ประจำซอยนั้น มาบนเหมือนกัน ไป ๆ มา ๆ เรื่องมันผูกพันจนเรามาอยู่กับเด็ก ๆ ด้วย เป็นบทที่กลัว ๆ ขำ ๆ ไปอีกแบบหนึ่ง แตกต่างจากเรื่องอื่น ก็เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น
เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่แยกมาแสดงเองคนเดียว ไม่มี ลาล่า ลูลู่ ไม่คิดถึงเขา ช่างหัวเขาเถอะครับ (หัวเราะ) เพราะครั้งนี้ ได้เล่นกับน้องแอนนา แล้วน้องเขาน่ารักครับ เล่นได้ดีครับ แอ็คติ้งดีมาก บอกไว้เลยนะครับว่า ถ้าใครไปบนที่ไหนแล้วอย่าลืมนะครับ เดี๋ยวจะโดนเหมือนพวกเรา อยากรู้ว่าเราโดนอะไรกันบ้าง ไปดู แล้วจะได้รู้เลยครับ”
…อี๊ด วงโปงลางสะออน หนุ่มฮ็อตแห่งปี สร้างปรากฏการณ์ฮิตถล่มทลายด้วยวงดนตรีไทยประยุกต์ โปงลางสะออน แสดงดนตรีไป ปล่อยมุขฮาไป คนดูชอบกันทั้งบ้านทั้งเมือง อี๊ดเคยมีประสบการณ์การบนพระพรหมเอราวัณ ให้ถูกหวย แล้วจะยกวงโปงลางไปแสดงหน้าพระพรหม แล้วก็ถูกล็อตเตอรี่เข้าจริง ๆ ถึงเวลาต้องไปแก้บน พี่อี๊ดลงทุนยกวงโปงลางครบวง ไปแสดงหน้าพระพรหม ทั้งค่ารถ ค่าตัว ค่าข้าว ค่าน้ำก็เกิน 2,000 บาท ที่ถูกรางวัลมาซะอีก สำหรับ “ผีไม้จิ้มฟัน” อี๊ด-โปงลางสะออน รับบทหนักต้องเจอผีเต็ม ๆ จากเหตุไม่ไปแก้บน ส่วนจะขำขนาดไหน ติดตามกันได้
ธี-ธีพร วีระจิตเอกวิชัย (แว่น) – แว่น เพื่อนสนิทของเอก บุคลิก เรียบร้อย ขวัญอ่อน เหมือนจะขี้ขลาด แต่แว่น เป็นที่พึ่งของเพื่อน ๆ เสมอ เพราะพ่อแม่รวย ส่งแว่นมาเรียนกรุงเทพฯ กะให้เรียนสูง ๆ สุดท้ายแล้ว เงินหมด ใกล้เวลาสอบเอ็นท์ฯ แว่นกลัวพ่อแม่จะผิดหวัง ก็หันไปขอความช่วยเหลือ ที่พึ่งสุดท้าย เจ้าพ่อต้นไทร อยู่ท้ายซอย…หารู้ไม่ เจ้าพ่อต้นไทร ดุยิ่งกว่าพ่อแม่ซะ
“มาเล่นหนังครั้งแรก อยากได้ประสบการณ์ว่า เขาทำหนังผีกันยังไง ก็ได้เลยครับ วันที่เข้าฉากกับพี่นก ยืนอยู่ในห้องน้ำ มองเห็นพี่นกยืนจ้องหน้าเราอยู่ ในห้องมืด ๆ พี่นกแต่งเอฟเฟ็กต์แล้วด้วย แววตาน่ากลัวมาก มองมายังงี้ เหมือนพี่นกมีผีเจ้าพ่อสิงอยู่จริง ๆ แล้วจ้องเราอยู่ เราก็ยืนอยู่ เหมือนโดนไฟช็อตจริง ๆ ครับ พี่นกจ้องเหมือนจะกินเลือด จะเอาชีวิตเรายังนั้นเลย แล้วไฟมันก็ติด ๆ ดับ ๆ แสงและภาพมันก็ให้ด้วย บรรยากาศก็ให้ด้วย กลัวไม่ลืมเลย เหมือนตัวเราทำอะไรผิดไว้ ใครที่ชอบขอโน่น ขอนี่ บนอะไรไว้แล้ว เราไปขออะไรแล้วทำให้สำเร็จซะนะครับ รับปากใครไว้ ขออะไรเอาไว้ แล้วเราไม่ทำตามสัจจะ มันก็จะไม่ดีกับตัวเรานะครับเพื่อน ๆ”
เฮนรี่ เดอ มาร์เซียค์ (ดอน) – หนุ่มลูกครึ่งหน้าหวาน ตาใส ๆ สายตาหวานเยิ้ม มีไว้มองแต่สาวสวย เพื่อน ๆ บนบานขอให้สอบเอนฯ ติด แต่ดอนบนขอน้องเบลล์ สาวสวยแถมมาด้วย ผลเลยได้สองเด้ง ทั้งเอนทรานซ์ติด และ น้องเบลล์มาควง แต่โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี ตอนเจ้าพ่อมาทวงสัญญาแก้บน ดอนเลยต้องเจอสองเด้งเหมือนกัน
“ครับ อ่านบทแล้ว สนุกดี วัยรุ่นบนเจ้าพ่อไว้ จนมาโดนผีหลอกอะไรอย่างนี้ เรื่องแบบนี้ หนังฝรั่งไม่มีนะครับ หนังไทยนี่ล่ะ เฮนรี่เคยถ่ายโฆษณามาก่อน มาเล่นหนังเรื่องแรกครับ ตั้งใจจะมาหาประสบการณ์ ได้ประสบการณ์ของจริงเลยครับ ถ่ายทำกันสนุกมาก ๆ ผจญภัยสมใจอยากเลยครับ ทั้งวัด ป่าช้า โรงพยาบาลร้าง ไปหมดแล้วเพราะถ่ายหนังเรื่องนี้”
แอนนา-ปรางค์ทิพย์ เศวตประสาธน์ (น้องเบลล์) – สาวที่ทุกคนหมายปอง เป็นนักเรียนพาณิชย์ที่ใส่กระโปรงนักเรียนได้เร้าใจหนุ่ม ๆ เป็นสาวใส สวยแป๋วแหวว อินโนเซนต์ ไม่เคยตั้งใจตลก ไม่ตั้งใจเซ็กซี่ แต่ใช่เลยทุกอย่างที่พูดมา
“แอนนา กลัวผีมาก หนังผีไม่เคยดู เพราะดูแล้วก็ปิดตาไว้ตลอด นึกว่ามาเล่นหนังผี รู้ว่า เขาทำหนังผีกันอย่างไร จะได้หายกลัว แต่เปล่าเลย ไม่ได้หายกลัว แต่กลัวเพิ่ม เพราะแต่ละสถานที่ ๆ ไปถ่ายทำ แอนนาไม่กล้าเดินไปไหนคนเดียว ต้องมีพี่สาวมาเป็นเพื่อนตลอดเวลาเลย”
นพดล ซอยสกุล (โม้) – เด็กหนุ่มผู้หวังเอ็นท์ฯ ติดทางลัด เป็นคนง่าย ๆ ติดเพื่อน เฮไปเฮกัน ไปไหนไปด้วย ขี้โม้สมชื่อ พูดมากกว่าใคร แต่พอเจอเหตุอะไรเข้าจริง ๆ เผ่นเร็วกว่าใครเหมือนกัน ชอบหนีไปแอบใกล้ ๆ น้องเบลล์ แฟนเพื่อนเสียด้วย บิ๊กเป็นอีกคนที่ไม่เคยคิดว่า การบนบานเป็นเรื่องจริงจัง เลยต้องเจอบทเรียนของจริง !
“ถ่ายหนังเรื่องนี้ บรรยากาศจริงจัง จนบางที บิ๊กลืมไปเลยว่า เราถ่ายหนังอยู่นะ มีฉากหนึ่ง น่ากลัวจริง ๆ วันนั้นมีพี่คนหนึ่งมาถ่ายเป็นเอ็กซ์ตร้า ทาตัวเขียวหมด แล้วพี่คนนี้มายืนอยู่ด้านหลังบิ๊กไหว้ศาลพระภูมิ บิ๊กก็ไม่เห็นตอนเขามายืนอยู่ พอหันไปปุ๊บ เฮ้ย ! วูบแรก เหมือนโดนแล้วไง ก็มานั่งคิด มีสตินิดหนึ่ง เออ…เราถ่ายหนังอยู่ ซึ่งเขายืนนิ่งมาก แว๊บแรกนึกว่า โดนแล้วไง ลืมไปเลยว่า เรากำลังทำงานถ่ายหนังอยู่ ทำงานหนังสนุกกว่า โฆษณา เพราะหนังเราสามารถคิดบทได้ เสริมได้ ขายความเป็นตัวเราลงไปได้ และพี่ ๆ นักแสดงแต่ละคนก็เก่ง ฉลาดมาก แสดงในสิ่งที่เรานึกไม่ถึงเสมอ ๆ ได้ประสบการณ์ ได้เรียนรู้ ได้บรรยากาศหนังผีมากเลยครับ”
แสดงความคิดเห็น