ผู้กำกับ : ทรงศักดิ์ มงคลทอง
คำโปรย : มหรสพคนตาย...ที่ไม่ควรล้ำเส้น
นักแสดง:
อชิตะ ปราโมช ณ อยุธยา .... หมอยุทธ
ภัครมัย โปตระนันทน์ .... อร
นะโม ทองกำเหนิด .... โรจน์
พิมลวรรณ ศุภยางค์ .... พรรณ
วันที่เข้าฉาย: 5 ธันวาคม 2550
ผีจ้างหนัง : อาถรรพณ์ที่ไม่เกี่ยวกับสถานที่
เขียนโดย Obelisk
พุธ, 05 ธันวาคม 2007ในขณะที่หนังผีออกมาหลอนคนดู หลอกเงินผู้ชม ทำหน้าที่อย่างเกร่อตลาดหนังไทย
แล้วบ้างก็ประสบกับความอับอายเมื่อหนังถูกสร้างออกมาได้อย่างน่าขายหน้าคนทำหนัง
บ้างก็เอาตัวรอดไปได้อย่างหวุดหวิด
ไฟว์สตาร์ค่ายหนังที่เข็นหนังผีออกมาล่าสุดอย่าง “ผีจ้างหนัง” เลือกใช้พล็อตจากประเด็นที่เคยโด่งดังเมื่อหลายสิบปีก่อน เรื่องราวอาถรรพณ์สุดสะพรึงของหมู่บ้านคำชะโนด ปริศนาที่ว่าเริ่มจากการจ้างคนไปฉายหนังกลางแปลงให้คนดู แล้วพบว่านั่นได้ปรากฏความลึกลับยากจะอธิบายออกมาได้ ทำนองว่าคนตายหลอกคนเป็นไปฉายหนังมหรสพให้ดู
สาระของ “ผีจ้างหนัง” ไม่ได้มีอะไรมากเกินกว่าหนังผีทั่วไป คือ ผีออกมาหลอก คนกลัวผวา อย่างไม่เหตุผล ว่ามันออกมาทำไมฟะ แล้วเรื่องก็ดำเนินต่อไป กลัวก็กลัวหัวขนลุกขนาดนั้น ในขณะที่เราพยายามตามดูอย่างจดจ่อหัวใจว่า หนังจะพาเรื่องราวไปสู่ตำนานคำชะโนดได้อย่างไร
แน่นอนโปรดักชั่นอยู่ในระดับที่ไม่ได้เลวร้าย
ผีมีมาสารพัด กระทั่งผีอ้วนตัวนั้น
แต่บางเสี้ยวของหนังก็ให้ผลกับความทรงจำเป็นได้แค่ความว่างเปล่า
หมอ (อิงค์ อชิตะ) ลงทุนค้นคว้าหาข้อมูลพลิกปูม เพื่อทำวิจัยเกี่ยวกับตำนานลึกลับนี้ หนังไม่ได้ใส่รายละเอียดเพิ่มเติมว่า เขาทำไปเพื่อประโยชน์อันใด
ในขณะที่ทีมร่วมทำวิจัยกับหมอหนุ่ม พบเจอกับการหลอกหลอนของบรรดาผี ๆ เมื่อได้ดูฟิล์มหนังม้วนเดียวกับที่เคยฉายที่คำชะโนด
เอ หรือว่า อาถรรพณ์จะอยู่ในฟิล์มม้วนนั้น
ทำเอาเป๋ไปซักพัก เมื่อผีออกมาไล่ล่ากับคนที่ได้ดูหนัง เพี้ยน บ้า ฆ่าตัวตาย แต่หมอยังคงแน่วแน่จะทำตามความตั้งใจนั้นอย่างเดียวไม่เปลี่ยนแปลง
ตอง ภัครมัย แฟนสาวของหมอกับภาวะความเป็นครอบครัวที่แทบให้ภาพเสมือนของหนัง “บ้านผีสิง” ความรักซ้อนซ่อนไว้ด้วยความระแวดระวังไม่เข้าใจของคนสองคน หรือฉากที่กลาย ๆ ไปคล้าย ๆ กัน เอ๊ะ เธอสูบบุหรี่เหรอ ชั้นบอกแล้วใช่มั้ย ชั้นห้ามแล้วใช่มั้ย
บทของตองและพี่อิง นี่คือส่วนที่พยายามจะยกเนื้อหาดราม่าว่าด้วยการกระทบกระทั่งของความรักบนหนังผี ความเป็นเพศชายฝ่ายกระทำ เพศหญิงรองรับและทำให้พยายามจะใส่ความลึกซ้อนซ่อนในนั้น
หนังเดินเรื่องผสานไปกับการโดนผีหลอกตามรายทางเป็นระยะ เพื่อเดินไปสู่จุดหมายปลายทางสุดท้าย คือการนำฟิล์มม้วนนั้นไปฉายที่คำชะโนด เพื่อจะถ่ายรูปจับผี
แน่นอน เราก็หวังว่าจะได้พบคำตอบที่นั่น-คำชะโนด
แต่ทว่า “ผีจ้างหนัง” ทำให้หนังสรุปออกมาอย่างไร้เหตุผล แน่นอนว่าประกอบด้วย Voice Over ของใครสักคนที่เคยกล่าวสั่งสอนไว้ เมื่อจบแบบนี้แล้วเราก็สรุปได้ในใจอีกที อ้าว เอาแบบนี้เลยเหรอ
ง่าย ๆ พี่ขึ้นต้นเป็นหนังผีตำนานหมู่บ้านคำชะโนด แล้วจบเป็นหนังไซไฟ ประเภทฟิล์มดูดวิญญาณไปซะ รวบรัดง่ายดี
ภาพเหมือนอีกอย่างที่คล้ายอีกเรื่องหนังไทย คือ “แฝด” มีบ้างบางซีนที่ให้ไซโค ออกมาเพ่นพ่านในหนัง
“ผีจ้างหนัง” ไม่ได้เลวร้ายสุดทน คืออยู่ในขั้นอภัยให้ได้ เพื่อโอกาสต่อไปกับคนทำที่คิดว่าเรื่องต่อไปน่าจะทำได้ดีขึ้น เพราะถ้าดูจากความตั้งใจที่เห็น น่าจะบกพร่องในส่วนของความอ่อนด้อยแค่บางเสี้ยวเท่านั้น ทำให้อาจจะดู Non Sense ประปรายในหนัง
แม้จะจบแบบไม่ต้องการอาถรรพณ์คำชะโนดมาเอี่ยวก็ตาม แต่หนังเรื่องนี้เป็นหนังผีที่น่าให้อภัยค่ะ
แสดงความคิดเห็น