คืนนี้ไม่มีพระจันทร์ (2518)

สร้อยดาว (อรัญญา นามวงศ์) ลูกสาวของนายสุรเดช (ส. อาสนจินดา) เศรษฐีใหญ่เจ้าของโรงงานพิมพ์ลายผ้าที่ใหญ่ที่สุดใน เมืองไทยได้มาตามหานัฑ (กรุง ศรีวิไล) นักศึกษาหนุ่มจากมหาวิทยาลัยศิลปากรปีสุดท้าย ผู้เป็นคนรักที่บ้านพักของนัฑ แต่คนรับใช้ที่บ้านของนัฑบอกว่า นัฑไม่อยู่ไปทัศนาจรกับเพื่อน ๆ ร่วมมหาวิทยาลัยของนัฑ สร้อย ดาวจึงกลับไปด้วยความผิดหวัง

ในขณะเดียวกันนั้น นัฑก็กําลังสนุกสนานอยู่กับเพื่อนฝูง แต่ในขณะเดียวกันก็บังเกิดความไม่สบายใจอยู่ด้วย เพราะความตั้งใจของนัฑที่มาทัศนาจรในครั้งนี้ ก็เพราะปรารถนาที่จะอยู่ใกล้ชิดกับทิชา (นัยนา ชีวานันท์) นักศึกษาสาวร่วมมหาวิทยาลัยซึ่งนัฑรักเธออย่างจริงใจและเทิดทูนเธอไว้เหนือผู้หญิงอื่นใดทั้งสิ้น แต่ปรากฏว่ายุคล (ศศิมา เชิงห์ศิริ) ผู้หญิงอีกคนหนึ่งซึ่งอยู่ในฐานะคนรักของนัฑเช่นเดียวกันได้ติดสอยห้อยตามนัฑมาด้วย และคลอเคลียอยู่ใกล้นัฑไม่ยอมห่าง ซึ่งทําให้ทิชาได้รับความกระทบกระเทือนใจอย่างยิ่ง แต่เธอเป็นคนที่เก็บความรู้สึกได้เป็นอย่างดี จึงทําไม่สนใจนัฑและยุคล จนกระทั่ง สุมล (สมถวิล จงวิบูลย์ทรัพย์) ซึ่งเป็นเพื่อน สนิทอดรนทนไม่ได้จึงถามทิชาว่า ไม่ได้รักเราเลยหรือ ทิชาไม่ตอบแต่ในใจของเธอได้ตั้งปฏิภาณเอาไว้ว่า ถ้านัฑยังขึ้นทําตัวแบบนี้ เธอจะไม่ยอมตอบคําว่า “รัก” แก่นัฑเป็นอันขาด

“นัฑกลับมาจากทัศนาจรในตอนกลางคืน ได้พบว่าข้าวของในห้องนอนถูกรื้อเกลื่อนกลาด รวมทั้งรูปของทิชาก็ถูกฉีกทั้งอยู่กลางห้อง ปรากฏว่าสร้อยดาวมานอนคอยอยู่แล้ว ทั้งคู่เกิดการต่อว่าต่อขานกันอย่างรุนแรงและ เมื่อนัฑบอกว่าทืชาคือคนที่เขารักมากที่สุดในชีวิต จึงทําให้สร้อยดาวบันดาลโทสะตบหน้านัฑแล้วออกจากบ้านไปด้วยความเสียใจ นัฑเองก็ไม่สบายใจจึงโทรศัพท์ไปชวนแกลบ (รอง เค้ามูลคดี) ออกไปเที่ยวไนท์คลับด้วยกัน เพราะไนท์คลับแห่งนั้นไม่มีเงินก็สามารถไปเที่ยวได้ เนื่องจากว่านขามีแฟนเป็นพาร์ทเนอร์อยู่อีกคนหนึ่งชื่อจูน (เบียทิพย์ คุ้มวงศ์) นัฑผู้ที่ถือคติที่ว่าไม่ได้พระจันทร์ก็พันดาวไปเรื่อยๆ ก่อน จึงหันมามัวรักกับจูนอีกคนหนึ่ง

ในขณะเดียวกัน สร้อยดาวซึ่งยังต้องการ ที่จะเอาชนะหัวใจนัฑให้ได้ ก็ไปชวนเจตน์ (ภูษิต อภิมัน) ซึ่งหลงรักสร้อยดาวอยู่ก่อนแล้วไปเที่ยวด้วยกัน เพื่อต้องการให้นัฑบังเกิดหึงหวง และก็ได้ผลเพราะปรากฏว่านัฑมาพบเข้าก็โกรธ จับเจตน์โยนลงจากรถไป แล้วนั่งรถไปกับสร้อยดาว นัฑกับสร้อยดาวจึงกลับมาคืนดีกันอีก

ที่มหาวิทยาลัย นัฑพยายามเร่งงานส่งอาจารย์ให้เสร็จ เพื่อผลของการสอบปลายปี แต่แกลบมาชวนไปกินเหล้าอีก นัฑไม่มีเงิน จึงชวนแกลบไปกินเหล้าที่บ้านยุคล แล้วเกิดติดลมไปเที่ยวต่อกันจนเกือบสว่าง ดังนั้นเช้าวันรุ่งขึ้นจึงกลับมานอนสลบไสล โดยที่งานยังไม่เสร็จ จนกระทั่งต้อย (เสาวณีย์ ดวงปรีดา) มาพบจึงรับอาสาจะไปตามทิชามาช่วยทํางานให้ นัฑพูดเกลี้ยกล่อมจนกระทั่งทิชาใจอ่อนตกลงรับทํางานให้ และขอตัวออกไป เพื่อเอาเครื่องมือ ก็เป็นช่วงเดียวกันกับที่สร้อยดาวมาตามนัฑไปเที่ยว นัฑกลัวว่าทิชากลับมาจะมีเรื่องจึงรีบออกไปกับสร้อยดาว เป็นคราวโชคร้ายของนัฑเพราะในขณะที่ออกมาจากมหาวิทยาลัย สุมลบังเอิญเห็นเข้าจึงกลับมาบอกทิชา ทิชาเสียใจมาก

วันรุ่งขึ้น นัฑกลับมาปรากฏว่าเฟรมที่เขียนภาพว่างเปล่าจึงเข้าใจว่า ทิชาแกล้งตัวให้สอบตก นัฑโมโหจึงต่อยเฟรมเขียนภาพพังแล้วออกไปกินเหล้าที่ไนท์คลับที่จูนทํางาน จูนเมื่อเห็นนัฑมาหาก็ดีใจผละจากแขก มานั่งคุยที่โต๊ะนัฑจึงทําให้แอ๊ด (นที บุน นาค) ซึ่งเป็นแขกของจูนอยู่ไม่พอใจ จึงเข้ามาร่วมที่โต๊ะนัฑ จนกระทั่งเกิดเรื่องชกต่อยกันขึ้น แอ็ดถูกต่อยสลบไป จูนจึงพานัฑหนีไป

หลายวันต่อมา แกลบมาตามนัฑที่แฟลตของจูน แล้วเรียกนัฑออกไปข้างนอกโดยบอกข่าวว่าขณะนี้ทิชาไปผ่าตัดไส้ติ่งอยู่ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันที่รับทํางานให้แก่นัฑ จึงไม่สามารถรับทํางานให้แก่นัฑได้ นัฑรู้ข่าวก็ร้อนใจรีบไปเยี่ยมทิชาที่โรงพยาบาล ในขณะที่ทั้งสองกําลังจะเข้าใจกันก็ปรากฏว่า สร้อยดาวมาตามหานัฑถึงในห้อง นัฑเกรงว่าสร้อยดาวจะมาก่อเรื่องที่โรงพยาบาล จึงรีบชวนสร้อยดาวออกไปข้างนอกทิ้งให้ทิชามองตามด้วยความเสียใจ

สร้อยดาวได้บอกกับนัฑว่าขณะนี้เธอตั้งท้องให้รีบแต่งงานกับเธอเสีย โดยทางพ่อแม่ของเธอจะเป็นผู้จัดการให้ในเรื่องการเงินทั้งหมด นัฑกําลังอารมณ์เสียอยู่แล้วจึงบอกปฏิ เสธสร้อยดาวไปอย่างไม่มีเยื่อใยแล้วบอกให้
สร้อยดาวไปเอาลูกในท้องออกเสียด้วย สร้อยดาวนำความกลับมาบอกพ่อแม่ กลับถูกนายสุรเดช ด่าว่าอย่างเสียหายแล้วยื่นคําขาดให้สร้อยดาว จัดการให้นัฑยอมแต่งงานด้วยให้ได้ไม่ว่าจะเป็นวิธีใดก็ตาม โดยมีแม่ของสร้อยดาว (จุรี โอศิริ) ปลอบโยนและบอกว่าจะสอนวิธีทําให้สร้อยดาวได้ แต่งงานกับนัฑให้ได้

สร้อยดาวมางอนง้อเจตน์เพื่อต้องการให้เจตน์ไปเป็นเพื่อนในการไปตามนัฑ ซึ่งสร้อยดาวรู้ข่าวมาว่านัฑกลับไปอยู่จันทบุรี เจตน์หลงกลยอมติดตามสร้อยดาวไปด้วย และ เมื่อสร้อยดาวได้พบกับนัฑก็ทิ้งเจตน์ตามเคย เจตน์เสียใจ จึงเข้าไปกินเหล้าในร้านข้างทางจนกระทั่งเมาพับไป

นัฑยอมแต่งงานกับสร้อยดาวก็เพื่อเห็นแก่ลูกในท้อง หนังสือพิมพ์ลงข่าวการหมั้นของนัฑกับสร้อยดาวอย่างครึกโครม จักร (ภูมิ พัฒนายุทธ ) ซึ่งหลงรักทิชาอยู่ เป็นผู้ เอาหนังสือพิมพ์มาให้เพื่อน ๆ ทุกคนในมหาวิทยาลัยดู ทิชาก็ได้รับทราบข่าวนี้ด้วย จึงหลบออกมาคนเดียวด้วยความเสียใจ นัฑตามมาพบเพื่อที่จะบอกให้ทิชาได้รู้ว่าที่ต้องแต่งงานกับสร้อยดาว ก็เพื่อเห็นแก่เด็กในท้องของสร้อยดาว ในขณะนั้นสร้อยดาวมาตามหานัฑให้กลับไป แต่นัฑไม่ยอมกลับ สร้อยดาวจึงโกรธวิ่งออกมาจากมหาวิทยาลัย โดยไม่ระวังตัวจึงถูกรถชนได้รับบาดเจ็บจนแท้งลูก นายสุรเดชพ่อของสร้อยตาวจึงประกาศถอนหมั้น และให้นัฑเลิกยุ่งเกี่ยวกับ สร้อยดาวอีกต่อไป

นัฑ… ผู้เปรียบชีวิตของตัวเองประดุจท้องฟ้าที่ดารดาษไปด้วยดวงดาว จะโลดแล่นไป เช่นไรและ ชีวิตของเขาหรือฟ้าของเขาจะมี พระจันทร์หรือไม่ โปรดรอชม “คืนนี้ไม่มี พระจันทร์”
ฉายที่โรงภาพยนตร์แอมบาสเดอร์ และรามา

ช.พจน์ฟิล์ม โดย พรพจน์-รัชนีวรรณ
เสนอผลงานอันดับ 1
หมื่นแสงดาว ไม่เท่าหนึ่งแสงจันทร์
ชีวิตฉันขาดเธอเปรียบเสมอ...
คืนนี้ไม่มีพระจันทร์ The LONGING MOON

ของ สุวรรณี สุคนธา
กรุง ศรีวิไล ดาราตุ๊กตาทอง 2516
พบ 4 ดาราสาวยอดนิยม
อรัญญา นามวงษ์ ยอดดาราเอเซีย
นัยนา ชีวานันท์ ยอดดาราวัยรุ่น
เปียทิพย์ คุ้มวงศ์ ดาราตุ๊กตาทอง 2516
ศศิมา สิงห์ศิริ ยอดดาราแห่งยุค
ร่วมด้วย ภูมิ พัฒนายุทธ, ภูษิต อภิมัน, รอง เค้ามูลคดี,
บาหยัน พันธุ์โสภา, วงทอง ผลานุสนธิ์, เทวฤทธิ์ ลอยชาย
และขอฝากฝัง เสาวณีย์ ดวงปรีดา
ดารารับเชิญ ส.อาสนจินดา, จุรี โอศิริ
ส.อาสนจินดา-สุวัฒน์ อรรถจินดา-ธนาชัย ชิโนทัย สร้างบท
โสภณ เจนพานิช ถ่ายภาพ
บรรจง เลาหะจินดา กำกับการแสดง
ช.พจน์ฟิล์ม จัดจำหน่าย
*ใบปิดวาดโดย ริ้ม