พัฒนาภาพยนตร์ ร่วมกับ พูนทรัพย์ฟิล์ม
ทุ่มทุนสร้างให้มโหฬาร
เรื่องดังทั่วประเทศจากหนังสือ ดาราไทย
ศึก 5 เสือ WARRIORS 5
ของ อรวรรณ
สมบัติ เมทะนี เป็น กรด แก้วสามสี
มานพ อัศวเทพ เป็น วิง ไกรลาศ
ครรชิต ขวัญประชา เป็น แสน สุรศักดิ์
ชนะ ศรีอุบล เป็น มิตร เมืองแมน
ประจวบ ฤกษ์ยามดี เป็น ปลิว ปานทอง
ร่วมด้วย อรัญญา นามวงษ์ เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์
สุริยา ชินพันธ์, สมจินต์ ธรรมทัต, ดามพ์ ดัสกร,
อนันต์ สัมมาทรัพย์, ลักษณ์ อภิชาติ, โดม สิงห์ สิงห์โมฬี,
บู๊ วิบูลย์นันท์, ดวงใจ หทัยกาญจน์, เมตตา รุ่งรัตน์,
ทาริกา ธิดาทิตย์, โขมพัสตร์ อรรถยา
ประทีป โกมลภิส บทภาพยนตร์
ธีระ แอคะรัจ ถ่ายภาพ
รังสี ทัศนพยัคฆ์ กำกับการแสดง

เรื่องย่อ ศึก 5 เสือ

แสน สุรศักดิ์ (ครรชิต ขวัญประชา) เดินทางจากนครนายกเข้า กรุงเทพ ฯ เพราะได้ข่าวจากสุรางค์ อิศราพงษ์ ว่า สามีของ หล่อน คือ มิตร เมืองแมน (ชนะ ศรีอุบล) หายไป ในระหว่างการเดินทางมีเรื่องกับนักเลงคุมซ่องถึงขั้นชกต่อยกัน

เมื่อถึงกรุงเทพ ฯ เขาได้ไปเที่ยวไนท์คลับแห่งหนึ่ง เอาสาวญวนไปนอนด้วย เขาปล่อยบทบาทยอดชายเสียหล่อนติดใจ เปิดเผยให้เขาทราบว่าผู้ที่รู้เรื่องราวของ มิตร เมืองแมนดี คือ แครี่ เขาก็ติดต่อกับแครี่ถามถึงมิตร หล่อนรับว่า เป็นผู้ที่โทรศัพท์ไปบอกเมียมิตรว่ามิตรไปเชียงใหม่ ไปเพราะเรื่องซื้อหุ้นเหมือง แร่ที่แม่สะเรีย งระหว่างที่สนทนากันแสนจับได้ว่ามีคนซ่อนอยู่ในห้อง แสนจึงถลุงนักเลงในห้องเสียหมอบ แคธีจึงสารภาพความจริงว่า สามีของหล่อนชื่อ ไชยธัช (อนันต์ สัมมาทรัพย์) มีน้องชายชื่อ ทวนทอง ขายหุ้นเหมืองแร่ ที่แม่สะเรียง ให้กนก (สุริยา ชินพันธ์) กนกเป็นน้องชายของ กรวิก ซึ่งเป็นเพื่อนรักกับมิตร ตัวทวนทองไม่ทราบว่าเหมืองแร่ มีการโกงกิน เพราะตัวของทวนทองเป็นเพลย์บอย จึงขายหุ้นเพื่อไปแต่งงานกับผู้หญิงฝรั่งคนหนึ่ง

ฉะนั้นมิตรและกนกจึงเดินทางไปเชียงใหม่เพื่อดูเหมืองแร่ เมื่อแสนได้ทราบเรื่องราวจากแคธีแน่นอน เขาจึงเดินทางไปเชียงใหม่ ระหว่างการเดินทางเขาส่งข่าวให้เพื่อนเก่า คือ กรด แก้วสามสี (สมบัติ เมทะนี) ซึ่งเป็นนักเลงการพนัน ให้เดินทางไปพร้อมกันที่เชียงใหม่ เพื่อช่วยเหลือเพื่อนเก่า กรดแวะไปหา ณัติ หรือ “ไอ้กล้วย” (ทองแถม เขียวแสงใส) ที่ตากและเกิดการตะลุมบอนกับพวกเหล่าร้ายเกือบเสียที ก็มีหญิงสาวผู้ปราดเปรียวผู้หนึ่งมาช่วยหล่อนชื่อ มะตองญี (อรัญญา นามวงศ์) เป็นน้องเมียของกล้วย มะตอง
ญีเอากรดมารักษาตัวที่บ้าน ด้วยความใกล้ชิดทําให้มะตองญีเป็นเมียของกรด เมียของกล้วยบอกว่า แสนและมิตรผ่านมา แต่ไม่พบ กล้วยเพราะกล้วยไปทําธุระที่แม่สอด

มิตรและกนก มาพักที่โรงแรม “มหาราช” และได้รู้จักกับนิด (ดวงใจ หทัยกาญจน์) ซึ่งเป็นนางเสิฟสาวสวย ต่อมานิดก็ตกเป็นเมียของมิตร ระหว่างพักอยู่ที่โรงแรม มิตรและกนก ถูกพวกเหล่าร้ายคอยทําร้ายแต่ก็รอดมาได้ทุกครั้ง

กนกได้รู้จักกับกุลนัดดา (เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์) กุลนัดดา เป็นคู่หมั้น ของคํามูล (สมจินต์ ธรรมทัต) หล่อนหมั้นกับคํามูลเพราะถูกผู้ใหญ่บังคับ จากการได้รู้จักสนิทสนมทําให้หนุ่มสาวรักกัน และทําให้คํามูลไม่พอใจ ส่งสมุนมาคอยทําร้ายกนก แต่ความรักของหนุ่มสาวก็ไม่ราบรื่นเพราะประกายแก้ว (ทาริกา ธิดาทิตย์) ซึ่งเป็นคู่หมั้นกับกนก ได้มาปรากฏตัวที่เชียงใหม่ ประกายแก้วเป็น หญิงไวไฟหล่อนเสียตัวให้กนก และ หล่อนยังเป็นนางบําเรอของนายคํามูล

แสนมาถึงเชียงใหม่ได้พบกับมิตร และจะร่วมมือกันหาความลับในเหมืองแร่ว่าเป็นอะไร แสนจึงเดินทางไปตาม ปลิว
ปานทอง (ประจวบ กฤษยามดี) และ ส่งข่าวถึง วิ่ง ไกรลาศ (มานพ อัศวเทพ) กรด มาถึงเชียงใหม่ในคราบของผู้ดีชาวกรุง กรดเปิดฉากเล่นเผกับคํามูล เขาเสียแหวนทับทิมให้กับคํามูล แต่หลังจากเลิกเล่นเผ กรดก็แอบไปเอาแหวนคืนโดยเอาแหวนปลอมไปเปลี่ยนไว้ เช้ารุ่งขึ้น กรดไปหามะตองญี เล่าเรื่องคํามูลให้ฟัง มะตองญีตกใจประกาศว่า คํามูลเป็นผู้ที่หล่อนกําลังตามล่าตัวอยู่ เพราะคํามูลหักหลังหล่อนเรื่องเงิน มะตองญีมาปรากฏตัวที่เชียงใหม่ในคราบของ ทับทิม ณ เมืองตาก เพื่อตามล่าตัวคํามูลแต่คํามูลก็รู้ตัวเสียก่อน

คืนหนึ่งกนกจับได้ว่าประกายแก้วเป็นนางบําเรอของคํามูล ความสัมพันธ์ระหว่างกนกและประกายแก้วจึงสิ้นสุดลง และทําให้กนกและคํามูลเพิ่มความเป็น ศัตรูกันมากขึ้น ในฐานะที่ประกายแก้ว เป็นนางบําเรอของคํามูล มิตรจึงเอาเงินเข้าทุ่มและด้วยเล่ห์สวาทของมิตร จึงทําให้ประกายแก้วติดใจเพื่อที่จะเอาไว้เป็นนกต่อวิงมาอยู่ที่ซ่องสวาทของยุพิน (เมตตา รุ่งรัตน์) กรดมาพบและติดต่อกับพวกที่ซ่องนี้ ห้าเสือได้พบปะกันแล้วด้วยกลวิธีต่าง ๆ

ในเวลาเดียวกับ มะตองญีประชุมบริวารของ หล่อน หลังจากประชุมเสร็จ บริวารของหล่อนถูกยิง ทําให้หล่อนแค้นมาก หล่อนทราบจากกรดว่าตัวบงการในเรื่องที่ถูกยิงคือ นายทองเพิ่ม มะตองญี แต่เลาลงที่ลงมาจากดอยเพื่อสอบถามถึงพรรคพวกที่หายไปแต่ก็ถูกมะตองญีเล่นงาน เลาสงสารภาพว่า พวกมันขนฝิ่นขึ้นทางเหนือแล้ว วกลงมาสันเขาลงแม่สะเรียง ฝิ่นเหล่านี้จะส่งเข้าโรงงานที่แม่สะเรียงซึ่งโรงงานแห่งนี้ก็คือ เหมืองแร่นั่นเอง เมื่อทราบเรื่องดีแล้ว มะตองญีจึงฆ่าเลาลง เพื่อเป็นการลดกําลังของคํามูล

บุคคลสําคัญที่ติดตามสังหารชีวิตของมะตองญี คือ โพอ่อง เพราะมะตองญี และพี่เขยคือไอ้กล้วยทํางานขัดกันกับโพอ่อง โพอ่องจึงคิดกําจัดเสียด้วยการร่วมมือกับคํามูล ทางฝ่ายมิตรปล่อยข่าวว่าจะ เดินทางไปแม่สะเรียงและให้ทวนทองกับไชยรัชสั่งการ ไปทางเหมืองเตรียมการต้อนรับ ขณะนั้น คํามูลสั่งให้นายหลับเตรียมการปล้นฝิ่น

มะตองญีปลอมตัวเป็น กุลนัดดา เดินทางไปแม่สะเรียงกับกนก เพื่ออําพรางให้พวกเหล่าร้ายคิดว่าหล่อนยังอยู่ที่เชียง ใหม่ ระหว่างการเดินทางพวกเหล่าร้าย ได้ติดตามไปเกิดการต่อสู้กัน พวกเหล่าร้ายเป็นฝ่ายตายหมด

ในยามนี้แม่สะเรียงแน่นขนัดไปด้วยเหล่าบุคคลที่เป็นศัตรูกัน มะตองญีและกนกได้มาถึงแม่สะเรียงแล้ว และรอพวกของมิตรใน ขณะเดียวกัน คํามูล และพวกก็เดินทางมาแม่สะเรียงโดยมี ปลิว เป็นโชเฟอร์ วิง ไกรลาศเป็น มือปืน สถานที่ที่เหล่าร้ายมาชุมนุมกันคือ เหมืองแร่ คํามูลร้อนใจ รีบไปตรวจเครื่องมือที่จะทําการแปรสภาพฝิ่นเป็นอื่นได้ อย่างสะดวกและกรรมวิธีทุกประการ โพอ่องจึงไปเล่นงานทองเพิ่ม มันสารภาพว่า เป็นคนของคํามูล และโรงแรมแห่งนี้เป็นของฮอร้ายมีนามว่าโลเชนบึง เป็นเพื่อนของคํามูล โลเชนซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยกองพลค้าฝิ่น และเฮโรอินเอาที่แหล่งนี้เป็นที่ติดต่อกับลูกค้า โลเชนบังเกิดปะทะกับมะตองญีและถูกมะตองญีฆ่าตาย ต่อมานายทองเพิ่มได้กลายมาเป็นบริวารของมะตองญี

มิตรและพรรคพวกร่วมมือกับทางราชการช่วยกันปราบปรามยาเสพติด ทางฝ่ายวิงมี นักเลงของอดีตสามีของยุพินพาชายมาสองคนเพื่อที่จะจ้างวิ่งให้ไปรุมยิงใครคนหนึ่ง หรือกลุ่มหนึ่งวิ่งก็ตกลงทํา เพราะสงสัยว่าคนพวกนี้อาจเป็นศัตรูของมิตรก็ได้ ห้าเสือประชุมตกลงกันว่า จะ แยกทางกันหาเรื่อง ถ้าเจอกันก็ทําเป็นไม่รู้จัก

คํามูลเจ็บใจในการที่เสียหญิงคนรักไปถึงสองคนคือ กุลนัดดา และประ กายแก้ว ทําให้คํามูลคิดทําลายสาวคนรักของมิตรคือ นิด เป็นการแก้เผ็ด จึงสั่งให้แนบจัดการส่งคนไปฆ่านิด

การตายของโลเชนบึง กับมอร์ฟิน และเฮโรอินที่หายไป ทําให้พวกชาวเขาร้าย ๆ โกรธเคืองมากโดยเฉพาะ เลาเพียง (ดามพ์ ดัสกร) เขารู้ดีว่าสาเหตุการตายของโลเชน จึงสืบทอดมาจากคํามูล และเขายังรู้อีกว่ามอร์ฟีนและเฮโรอิน ในความดูแลของโลเซนบึงอาจซ่อนอยู่ ที่โรงแรมเวียงวัง และด้วยเหตุนี้คํามูลจึงฆ่าเลาเจียงเสีย ทําให้อํานาจของคนบนภูเขาลดลง และยังทําให้ลูกน้องของตนเองลดลงด้วย เหลืออ่องได้ติดตามคํามูลมาเพราะแน่ใจว่า คํามูลอยู่ที่ไหน มะตองญีย่อมอยู่ที่นั่น

ปลิว ปานทอง กรด แก้วสามสี มิตร เมืองแมน แสน สุรศักดิ์ วิง ไกรลาศ ต่างมารดากันเข้าถลุง พวกเหล่าร้ายด้วยชั้นเชิงอันน่าดู คํามูลและโพอ่อง เห็นว่าจะไปไม่รอด พร้อมกับมีเสียงเจ้าหน้าที่ตํารวจดังขึ้น โพอ่องและคํามูลจึงหนีเข้าไปใน อาคารที่ใช้ผลิต เฮโรอิน มะตองญีก็ตามเข้าไปด้วย การต่อสู้ระหว่างหญิงหนึ่งชายสองได้เกิดขึ้นอย่างดุเดือด โพอ่องและคํามูล ถูกมะตองญียิงตาย

ทุกคนแห่กันเข้ามาเมื่อมะตองยีใกล้จะสิ้นลม หล่อนกล่าวว่า “ชีวิตของหล่อนประสบความสําเร็จทุกอย่าง แม้กระทั่งความตาย คือ รับใช้ความเป็นธรรมอย่างอุทิศชีวิต และรู้จักความรักว่าหวานชื่นอย่างไร ดีใจที่มีความรัก และชื่นใจในความสําเร็จที่ติดตามสมบัติ ที่คํามูลโกงมาจนสําเร็จ” แล้วก็สิ้นใจ ในอ้อมแขนของกรด แก้วสามสี ผู้มีแต่น้ำตารดศพด้วยความบูชา