ภาพยนตร์จากชีวิตจริงที่หวา
ของราชาเพลงลูกทุ่ง สุรพล สมบัติเจริญ
16 ปีแห่งความหลัง
เรื่องราวจากชีวิตจริงของ ราชาเพลงลุกทุ่ง ” สุรพล สมบัติเจริญ” ถ่ายทอดเป็นภาพยนต์ ร่วมด้วยดาราดัง มิตร เพชรา คุ่ขวัญที่โด่งดังที่สุดในยุคนั้น กับ 8 เพลงอมตะของ สุรพล สมบัติเจริญ เรื่องราวการฝันฝ่ากว่าจะไปถึงดวงดาวของ ราชา นักร้อง และเรื่องความรักที่มีสุขและขมขื่น ที่โลดโผนกว่านิยายมากนัก ร่วมกันรำลึก ถึงราชาเพลงลูกทุ่ง
16 ปีแห่งความหลัง
สร้างจากชีวะประวัติของ สุรพล สมบัติเจริญ
“ลำดวล สมบัติเจริญ” กับ “การะเวก” เพื่อนสนิท เดินทางจากสุพรรณมากรุงเทพฯ หา “จ่าโทแต้ม” นักดนตรีในกองดุริยางค์ทหารอากาศ เพื่อหางานทำ ที่บ้านของจ่าโทแต้ม มี “จ่าโทโปร่ง” เพื่อนสนิทอีกคนอาศัยอยู่ด้วย จ่าโทแต้มให้การต้อนรับลำดวลกับการะเวกอย่างดี และเมื่อทราบว่าลำดวลได้ลาออกจากการเป็นนักเรียนจ่าทหารเรือ และลาออกจากการเป็นครูที่สุพรรณแล้ว ก็หาทางช่วยเหลือ ได้พาลำดวลไปพบ ร.ท.ปราโมทย์ นายของตนเพื่อฝากเข้าทำงานในกองทัพอากาศ
ร.ท.ปราโมทย์ ได้ตั้งค่ายมวยชื่อ ค่ายเลือดชาวฟ้า ได้รับลำดวลกับการะเวกเข้าทำงาน โดยบรรจุ ลำดวล เข้าทำงานในฝ่ายโยธา กองทัพอากาศ พร้อมกับแนะนำให้ลำดวลหัดมวยเพื่อหาลำไพ่พิเศษ จ่าตรีอ่อน ผู้ควบคุมดูแลนักมวยในค่าย ชอบพอสนิทสนมกับลำดวลและการะเวกเป็นพิเศษ สาเหตุเพราะทั้งสามคนชอบรำวง เมื่อมีคณะรำวงมาตั้งใกล้ๆ ค่ายอ่อนก็เป็นตัวการทำให้ลำดวลกับการะเวกได้หนีไปรำวงด้วยทุกคืน
จิ๋มลิ้ม หัวหน้าคณะรำวงชอบพอกับอ่อน เมื่อลำดวลได้แต่งเพลงรำวงไว้และอยากที่จะแสดงผลงานของตัว ก็ได้รับการสนับสนุนจากจิ๋มลิ้มเป็นอย่างดี เพลงชูชกสองกุมาร ของลำดวลได้รับกาารต้อนรับที่ดีจากประชาชนที่มารำวง ในคืนหนึ่ง ร.ท.ปราโมทย์ มาพบทั้งสามเข้า ทำให้ทั้งสามคนตกใจมาก แต่ ร.ท.ปราโมทย์ กลับแสดงความยินดีกับผลงานเพลงของลำดวล และย้ายลำดวลเข้าสู่กองดุริยางค์ทหารอากาศ
ที่กองดุริยางค์ทหารอากาศ ในระยะแรกลำดวลทำงานอยู่ฝ่ายการเงิน ได้รับยศเป็นจ่าตรี การะเวกและจ่าอ่อนก็ย้ายตามมาด้วย เนื่องจากบ้านพักเต็มทั้งสามคนจึงต้องมาขออาศัยที่บ้านพักของ จ่าแต้ม ที่บ้านของจ่าแต้มทั้งสามคนได้รับการขูดรีด และกดขี่จาก “นางแหว” เมียจ่าแต้มที่มีนิสัยเห็นแก่ตัวและปากร้ายเป็นที่สุด ทั้งสามคนได้หาทางแก้เผ็ดยายแหวทุกครั้ง ที่กองดุริยางคืทหารอากาศลำดวลได้รับความสนับสนุนจากนักร้องนักแต่งเพลงรุ่นพี่ ทำให้มีโอกาสแสดงผลงานที่แต่งและร้อง จนประชาชนให้ความนิยม และได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น สุรพล สมบัติเจริญ
สุรพล ได้ย้ายบ้านมาพักบ้านที่อยู่ติดกับ “พนอ“ ซึ่งมีสามีทำงานอยู่ในกองดุริยางค์ทหารอากาศ และที่นี่เองทำให้เขาได้พบกับ “ศรีนวล“ เพื่อนสนิทของพนอ ทำให้สุรพลมีโอกาสสนิทสนมกับ ศรีนวล จนได้รักและอยู่ร่วมกันในที่สุด
การครองรักของสุรพล และศรีนวลเต็มไปด้วยความราบรื่น และชื่นชมของเพื่อนๆ คือ อ่อน การะเวก และจิ๋มลิ้ม ผลงานเพลงของสุรพล เป็นที่ชื่นชอบของประชาชน จนสามารถตั้งวงดนตรีของตัวเอง และได้ ทองใบ รุ่งเรือง มาร่วมคณะด้วย
ฐานะความเป็นอยู่ของสุรพลดีขึ้น มีบ้านใหม่ และตั้งร้านธูปหอมสุรพล สมบัติเจริญ ความแตกร้านของชีวิตคู่เกิดขึ้นเมื่อ “จันทรา” สาวสวนแตงแฟนเพลงของสุรพลได้กลายมาเป็นเงาแห่งความเข้าใจผิดของศรีนวล และการที่สุรพลทำตัวสนิทสนมกับแฟนเพลงกับประชาชนที่นิยมในตัวเขา ทำให้ศรีนวลไม่เข้าใจในตัวเขามากขึ้น ยิ่งมีเสียงพูด เสียงล่ำลือ ทำให้ศรีนวล คิดมาก เกิดความหึงหวง และทะเลาะกับสุรพลบ่อยครั้งขึ้น สุรพลยอมตามใจ ศรีนวล พยายามตีตัวออกห่างจากประชาชน
สุรพล อ้างเหตุผลที่ประชาชนเริ่มเสื่อมความนิยมในตัวเขา วงดนตรีของเขา ให้ศรีนวลฟัง แต่ศรีนวลก็ไม่เข้าใจหาว่าสุรพลอ้างเรื่องงานบังหน้าเพื่อที่จะได้ติดต่อกับจันทรา และแฟนเพลงสาวๆ อย่างเดิม ทั้งสองคนเริ่มต้นทะเลาะเบาะแว้งกันอีกครั้ง ศรีนวลจึงตัดสินใจหาทางเอาชนะสุรพล อีกทั้งเป็นการประท้วงให้กับความรักของตนเอง ศรีนวลหนีออกจากบ้านมาหา พนอ เพื่อนรัก ขอให้ช่วยเหลือหาบ้านเช่า หาผู้ชายมาเป็นเพื่อนเพื่อให้ สุรพลหึงหวง จะได้ตามง้อขอคืนดี พนอเองแม้จะไม่เห็นด้วยกับความคิดของศรีนวล แต่ก็จำใจที่จะต้องให้ความช่วยเหลือ
16 ปีแห่งความหลัง
นำโดย
มิตร ชัยบัญชา-สุรพล เพชรา เชาวราษฎร์-ศรีนวล
พร้อมด้วย สมควร กระจ่างศาสตร์, รุจน์ รณภพ, มาลี เวชประเสริฐ,
ชูศรี โรจนประดิษฐ์, พฤหัส บุญหลง, พูลสวัสดิ์ ธีมากร,
ทานฑัต วิภาตโยธิน, สุคนธ์ คิ้วเหลี่ยม, ดาวน้อย ดวงใหญ่,
แป๊ะอ้วน, ชื้นแฉะ, ชาญ มีศรี
ขอแนะนำ กันทิมา ดาราพันธ์ ในบทสาวสวนแตง
ทองใบ รุ่งเรือง ให้เกียรติร่วมแสดง
ฟัง 8 เพลงเอกจากเสียงร้องของสุรพ
ในระบบมาตรฐานโลก 35 ม.ม.เสียงในฟิล์ม
ร่วมด้วยวงดนตรีสุรพล สมบัติเจริญ
อนุมาศ บุนนาค สร้างบท-กำกับการแสดง
สอาด คุปตาลักษณ์ สร้างฉาก
สมาน ทองทรัพย์สิน ถ่ายภาพ
โรม บุนนาค อำนวยการสร้าง
ร่วมใจฟิล์ม จัดจำหน่าย
-ใบปิดวาดโดย ทวีป
นักแสดง:
มิตร ชัยบัญชา | ||
เพชรา เชาวราษฎร์ | ||
กันทิมา ดาราพันธ์ | ||
ทองใบ รุ่งเรือง |
วันที่เข้าฉาย: 6 ธันวาคม 2511
แสดงความคิดเห็น