“มรดกที่สำคัญในวันนี้ อาจเป็นเพียงแค่วิถีชีวิตของวันวาน” พิชาน ทายาทเศรษฐีโรงงานทอผ้าเดินคิดขณะชื่นชมปราสาทเมืองต่ำ โบราณสถานศิลปะขอมร่วมพันปี เขากำลังจะถ่ายภาพช่องประตูหินที่แสงแดดตกสะท้อน แต่ต้องหยุดชะงักเพราะมีหญิงสาวสวยในชุดผ้าทอแปลกตาเดินผ่าน พิชานเดินตามไป และแอบถ่ายรูปหญิงสาวงามนั้นไว้ก่อนจะเดินทางกลับสู่กรุงเทพมหานคร
ใน งานประกวดสิ่งทอ สินฝ้าย และ ไหมแก้ว ขึ้นไปรับรางวัล ชไมมาน มารดาของพิชานยืนดูด้วยสายตาเคียดแค้น แต่พิชานกลับดีใจที่ได้เห็นหญิงสาวอีกครั้ง ชไมมานขอซื้อผ้าที่ชนะประกวดจากไหมแก้วด้วยเงินมหาศาล ไหมแก้วไม่ขายและพูดจาเสียดสีจนชไมมานออกอุบายให้ลูกน้องคือ กำพล และ เฉิดฉาย หาวิธีที่จะซื้อกิจการโรงทอเพลงผ้ามาครอบครอง พิชานมีความคิดที่จะเรียนรู้วิถีชีวิตและที่มาของผ้าผืนสวย แต่เป็นหนทางที่แตกต่างจากชไมมาน พิชานขอเข้ามาอู่ในเพลงผ้า ขอเรียนพิณเปี๊ยะกับสินฝ้าย และหัดยอมผ้า โดยมี โซะนอน ลูกน้องสินฝ้ายเป็นพี่เลี้ยง ในขณะที่ องอาจ ผู้เข้าออกในโรงทอเพลงผ้าได้อย่งาเปิดเผยในฐานะผู้จับจองหัวใจไหมแก้ว คนงานในโรงทอแบ่งฝ่ายสนับสนุนทั้งพิชานและองอาจ
สินฝ้ายมีงานอดิเรกคือ การเล่นพิณอีสานและพิณเปี๊ยะให้ไหมแก้วฟังยามที่จะคิดลายผ้าหรือทอผ้าเป็นการถ่ายทอดมาตั้งแต่ รุ่นปู – ย่า จนมาถึงพ่อแม่ได้เสียชีวิตไปแล้ว ลายผ้าต่าง ๆ สวยงามวิจิตรไม่มีใครสามารถเลียนแบบ พิชานเริ่มเข้าใจ “เพลงผ้า” มากขึ้น พอๆ กับที่เข้าใจหัวใจตนเอง ชไมมานยังหาวิธีทำลาย “เพลงผ้า” และพยายามดึงพิชานกลับมา โดยติดต่อ ทิพย์สราญ เพื่อนในวงสังคมชั้นสูงพาลูกสาวคือ ทิพย์สิรี เข้ามาใกล้ชิดพิชาน โดยหวังจะทำให้พิชานไหว้เขว ชไมมานไม่รู้ว่าทิพย์สิรีมีความประพฤติเหลวแหลกเพราะหยุดความต้องการตัวเอง ไม่ได้ ทิพย์สราญดีใจที่ลูกสาวจะมีคู่ครองที่ทัดเทียมกัน และหวังว่าการแต่งงานจะทำให้ลูกสาวของตนหายจากโรค
การเงินของบริษัท เพลงผ้าเริ่มมีปัญหา สินฝ้ายเมามายและพบอุบัติเหตุทำให้มือขวาพิการ พิชานอาสาเป็นมือที่เสียไปของสินฝ้าย ทุกคนที่โรงทอเห็นความตั้งใจของพิชาน ยกเว้นไหมแก้ว สินฝ้ายมีกำลังใจทำงานอีกครั้ง และข่าวร้ายที่สุดก็มาถึง เมื่อโรงทอถูกยึดเป็นของพิชานพัฒนา เพราะสินฝ้ายกู้เงินก้อนใหญ่ โดยเอาที่ดินเพลงผ้าค้ำประกัน แต่กำพลเอาลายเซ็นสินฝ้ายไปปลอมแปลงทำให้พิชานพัฒนากลายเป็นเจ้าหนี้เพลงผ้า พิชานอ้อนวอนขอให้แม่เลิกทำร้ายเพลงผ้า แต่ชไมมานยิ่งเกลียดชังเพลงผ้า จึงเข้ามาทำลายความรื่นรมย์ทุกอย่าง ไหมแก้ว สินฝ้ายและคนงานมีเพียงอิสระที่ไร้เสรีในโรงทอของตน
ไหมแก้วชิงชัง เสียงพิณของพิชานมากขึ้น คืนหนึ่งโรงเลี้ยงหม่อนถูกเผา พิชานฝ่าเปลวไฟเข้าไปเอาหม่อนของไหมแก้วออกมาได้ทั้งหมด ไหมแก้วเริ่มเข้าใจที่พิชานยอมสละชีวิตเพื่อหม่อนตัวเล็ก ๆ องอาจไม่พอใจที่พิชานมาแย่งความสำคัญไป โดยเฉพาะจากใจไหมแก้ว องอาจกีดกันให้พิชานออกห่างเพลงผ้า แต่ไหมแก้วกลับเริ่มสนใจฟังพิณของพิชาน พิชานไม่เห็นทางทำให้เพลงผ้าเป็นอิสระได้ นอกจากตกลงไปทำงานที่ยุโรปตามคำสั่งแม่เพื่อแลกโฉนดคืนให้ไหมแก้ว พิชาน ล่ำลาไหมแก้ว ไหมแก้วใจหายแต่ไม่ยอมให้พิชานล่วงรู้ความในใจ องอาจมาเห็นภาพพิชานกอดไหมแก้วแล้วเลือดขึ้นหน้า องอาจโทษว่าสินฝ้ายยอมให้พิชานใกล้ชิดไหมแก้วมาตั้งแต่ต้น สินฝ้าย สินฝ้ายทะเลาะกับองอาจรุนแรงจนรู้ความจริงว่า องอาจคือหลานชายของกำพล และเป็นคนที่แอบทำทุกอย่างจนพิชานพัฒนายึดเพลงผ้าไป
สินฝ้ายแทบ กระอักที่ไว้ใจคนผิด องอาจด่าว่าเป็นความผิดสินฝ้ายเอง ที่ทำให้ไหมแก้วตกเป็นเบี้ยล่างของชไมมาน สินฝ้ายเจ็บช้ำที่มือของตนทำลายเพลงผ้า จึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย ไหมแก้วกับพิชานเข้ามาช่วยแต่ยื้อชีวิตสินฝ้ายไว้ไม่ได้ ชไมมานได้โอกาส บังคับให้ไหมแก้วให้เข้ามาทอผ้าใช้หนี้ในโรงงาน ไหมแก้วจำใจมาเพื่อรักษาเพลงผ้าไว้ ชไมมานกับพวกกลั่นแกล้งไหมแก้วทุกทาง กำพลขู่และทำร้าย ทองปิว กับโซะนอนที่เป็นแรงงานเถื่อน แต่ทองปิวกับโซะนอนอดทนอย่างถึงที่สด เพราะกลัวนำความยุ่งยากมากให้ไหมแก้ว ไหมแก้วกดดันจนทอผ้าเข้าประกวดในชื่อพิชานพัฒนาไม่ชนะเลิศ ชไมมานโมโหคิดว่าไหมแก้วแกล้ง จึงปัดน้ำร้อนที่อยู่บนเตาราดไหมแก้วจนบาดเจ็บสาหัส พิชานหมดความอดทนกับแม่ พาไหมแก้วออกจากโรงงาน
พิชานพาไหมแก้วพร้อมคนงานทั้ง 2 ไปอยู่บ้านเช่า ไหมแก้วตกตะลึงที่เห็นกี่ของตนเองวางตระหง่านอยู่กลางบ้าน คืนนั้นทั้งสองเปิดใจรับความรักที่ซุกซ่อน เสียงสอดกระสวยและกระทบฟืมเริ่มดังต่อเนื่องอีกครั้ง ผ้าไหมผืนงามของไหมแก้วถูกสานทอด้วยความรักโดยมีพิชานเป็นกำลังใจ ชไมมานหมดทางที่จะดึงพิชานกลับมา จึงอาละวาดกับกำพล กำพลเพิ่มความแค้นพิชานเป็นทวีคูณ เพราะพิชานเริ่มตรวจสอบบัญชีที่กำพลโกง กำพลกลัวความชั่วถูกเปิดโปง ก็ปั่นหัวองอาจที่หลบ มาอยู่ด้วยให้แก้แค้นพิชาน องอาจลอบเข้าไประเบิดโรงงานอบลำไยในเครือพิชานพัฒนา ชไมมานสิ้นเนื้อประดาตัวต้องชดใช้ค่าเสียหายหลายร้อยล้านและเจอคดีใหญ่ ทิพย์สราญยื่นมือเข้ามาช่วย โดยมีเงื่อนไขข้อเดียวคือให้พิชานแต่งานกับทิพย์สิรี
พิชานจำใจแต่ง งานเพื่อรักษาทุกอย่างไว้ให้แม่ ไหมแก้วหัวใจสลายแต่ทนยอมรับ เพราะรู้ซึ้งถึงหัวอกพิชานต้องเสียสละความสุขเพื่อพากิจการให้อยู่รอด องอาจสำนึกผิดหนีกำพลมาขอโทษไหมแก้ว และพูดหว่านล้อมไหมแก้วให้เกิดความระแวงพิชานเรื่องทิพย์สิรี ไหมแก้วคิดเรื่องทิพย์สิรีแต่ไม่กังวลใจเพราะพิชานทุ่มเทความรักและความสุข ให้ไหมแก้วอย่างท่วมท้น พิชานถักสานชีวิตเล็ก ๆ ขึ้นภายในตัวไหมแก้ว ทองปิวและโซะนอนสังเกตว่าไหมแก้วท้อง ไหมแก้วดีใจเตรียมที่จะบอกพิชาน แต่เหตุการณ์กลับตึงเครียด เมื่อทิพย์สราญมาหาไหมแก้วที่บ้านและโกหกไหมแก้วว่าทิพย์สิรีกำลังท้องกับ พิชาน ไหมแก้วหมดความอดทน พาโซะนอนกับทองปิวออกจากบ้านเช่าไประหกระเหินอยู่ตามหมู่บ้านห่างไกลเพื่อ หนีพิชาน และสร้างเกราะความเกลียดชังบดบังความรัก ที่พิชานเคยมีให้จนหมดสิ้น
พิชานขออย่ากับทิพย์สิรี แต่ทิพย์สราญไม่ยอม มาทวงเงินพร้อมดอกเบี้ยจำนวนสองร้อยล้าน ชไมมานเครียดจัด เส้นเลือดในสมองแตก จนกลายเป็นอัมพาต ไหมแก้วยังทอผ้าตลอดเวลา โดยมีทองปิวกับโซะนอนดูแล ไหมแก้วตัดสินใจขายผ้าเพื่อให้ทุกคนได้อิ่ม ย้ง นายหน้ารับซื้อผ้า ผ้าตกไปอยู่ในมือทิพย์สราญ พิชานเห็นเข้าก็จำได้รีบออกไปหาไหมแก้ว โดยไม่รู้ว่าองอาจติดตามมาด้วย ความเคลื่อนไหวของทั้งคู่ไม่รอดสายตาของกำพลได้ พิชานกับองอาจไม่ทันระวังว่าระหว่างที่เดินทางไปตามความรักกลับคืน กำพลก็ตามติดมาชำระแค้นด้วยเหมือนกัน เส้นทางไหมแห่งความรักของพิชานกับไหมแก้วจะถักทอเป็นผ้าทอผืนสวยได้อีกครั้ง หรือไม่ ติดตามชมได้ใน เพลงผ้าฟ้าล้อมดาว
รายชื่อนักแสดง
ชาคริต แย้มนาม รับบท พิชาน
วรนุช วงษ์สวรรค์ รับบท ไหมแก้ว
อภิชาต พัวพิมล รับบท องอาจ
ปานวาด เหมมณี รับบท ทิพย์สิรี
ศรุต วิจิตรานนท์ รับบท สินฝ้าย
กฤษฎี พวงประยงค์ รับบท โซะนอน
อรัญญา นามวงษ์ รับบท ชไมมาน
กลศ อัทธเสรี รับบท กำพล
เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ รับบท เฉิดฉาย
อรสา พรหมประทาน รับบท ทิพย์สราญ
อุ่นเรือน ราโชติ รับบท ทองปิว
แสดงความคิดเห็น