ขอหมอนใบนั้นที่เธอฝันยามหนุน

วายุ ภูบาลบริรักษ์ หรือ ล่องจุ๊น ( พนมกร ตังทัตสวัสดิ์ ) เป็นลูกชายคนกลางของครอบครัวที่พ่อ ( มนตรี เจนอักษร ) ไม่เคยให้ความสนใจใยดีเลยแม้แต่น้อย ก็เพราะพ่อคิดว่าล่องจุ๊นเกิดมาเป็นตัวซวยของครอบครัว ทำให้พ่อต้องขาดทุนกับธุรกิจถมที่ ซึ่งต่างจากพี่น้องอีก 2 คนนั้นคือ พี่ถม ( ตรีพล พรมสุวรรณ ) พี่ชายคนโต เป็นคนที่เรียบร้อย เรียนเก่ง และว่าง่าย ส่วนอีกคนหนึ่งคือ กี้ ( กิตติ บุลสถาพร ) เป็นน้องคนสุดท้อง เป็นเด็กที่ซนและดื้อ ช่างประจบเอาใจ ทั้ง 2 จึงถูกยกย่อง ชื่นชมและได้รับความรักจากผู้เป็นพ่อ ผิดกับจุ๊นที่ได้รับความรักความอบอุ่นจากผู้เป็นแม่ และมีแม่เป็นที่พึ่งในยามที่จุ๊นมีปัญหา

จน มาถึงวันหนึ่งครอบครัวของจุ๊นได้เปลี่ยนไปเมื่อพ่อมีรายได้จากบริษัทรับเหมา ก่อสร้างเป็นกอบเป็นกำ พ่อก็พาผู้หญิงคนใหม่เข้ามาในบ้าน ทำให้แม่ทนไม่ไหวจึงหนีออกจากบ้านโดยพาจุ๊นไปด้วย และทิ้งลูกอีก 2 คนไว้เบื้องหลัง แม่พาจุ๊นไปอยู่อาศัยกับน้าจุรี หรือ อาอี๊จู ( โฉมฉาย ฉัตรวิไล ) ซึ่งอยู่กับอาเตี๋ย ( กล้วย เชิญยิ้ม ) สามี ทั้งคู่มีอาชีพขายหมูในตลาด ทั้ง 2 คนต่างให้ความช่วยเหลือแม่และจุ๊นเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่ อาหารการกิน รวมถึงโรงเรียนที่อาอี๊จูพาจุ๊นไปเข้าเรียนที่โรงเรียนเทศบาลใกล้บ้าน นอกจากนี้จุ๊นยังมีหน้าที่ประจำด้วยคือ การเป็นผู้ช่วยอาเตี๋ยเลี้ยงหมู ซึ่งเป็นชีวิตที่จุ๊นชอบและสนุกสนานมาก

แต่แล้ววันหนึ่งหมูที่จุ๊น เลี้ยงไว้ถูกตะขาบกัดตายหมดเล้า ทำให้จุ๊นเริ่มกลับไปคิดว่าตัวเองเป็นตัวซวยอย่างที่พ่อบอกไว้หรือไม่!!! หลังจากนั้นไม่นาน แม่ของจุ๊นลงทุนขายข้าวแกงโดยได้รับความช่วยเหลือจากอาอี๊ กิจการของแม่ประสบความสำเร็จจนต้องย้ายไปเช่าห้องแถวที่ท้ายตลาด ส่วนอาอี๊ก็เปลี่ยนอาชีพมาขายเครื่องก่อสร้างที่ตึกริมถนน และด้วยสิ่งนี้เองทำให้จุ๊นได้พบกับผู้เป็นพ่ออีกครั้งหนึ่ง เมื่อจุ๊นนำสิ่งก่อสร้างที่ร้านอาอี๊ไปส่งพ่อ ซึ่งเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างสะพานที่กำแพงแสน ซึ่งพ่อก็ยังพูดจาดูถูกจุ๊นและแม่อยู่เหมือนเคย ทำให้จุ๊นคอยหลีกเลี่ยงการไปร้านของอาอี๊

จน กระทั่งวันหนึ่งครอบครัวของอาอี๊ถูกโจรปล้นฆ่าทั้งบ้าน กอปรกับทั้งที่พ่อคอยพูดจาถากถางจุ๊น ว่าจุ๊นเป็นตัวซวยที่นำครอบครัวของอาอี๊ไปสู่จุดจบ และนั่นก็เป็นเหตุการณ์ที่จุ๊นจดจำและเสียใจไปจนวันตาย แต่ในช่วงเวลาอันเลวร้ายนั้นจุ๊นยังมี นิจ ( ศุลีพร ตันตระกูล ) เพื่อนหญิงต่างโรงเรียนคอยให้กำลังใจจุ๊นมาโดยตลอด แต่ก็ถูกทางบ้านของนิจคอยขัดขวางกีดกันเพียงเพราะว่าจุ๊นเป็นคนไทย และยังมีอาเฮียเสือ ( คชา ปานเอม ) พี่ชายของนิจที่เกลียดจุ๊นมาก ๆ เพียงเพราะว่าจุ๊นเป็นลูกแม่ค้าขายข้าวแกงจน ๆ จึงยกพวกมารุมซ้อมจุ๊นจนปางตาย แต่ที่ทำให้จุ๊นเสียใจมากที่สุดนั้นก็คือ จักรยานเสือหมอบคันงามที่แม่ซื้อให้ และเคยมีความหลังอันหวานชื่นกับนิจต้องพังทะลายลงไป พร้อมกับมิตรภาพที่ดีระหว่างนิจและจุ๊น

หลังจากเรื่องนิจจบลงก็มี เรื่องที่จุ๊นต้องเผชิญอีก นั่นคือนายทองเส็ง ( ทัตพงษ์ พงษ์ทัต ) ช่างตัดผมที่เข้ามาพัวพันกับแม่ ซึ่งจุ๊นไม่พอใจมาก จนมาวันหนึ่งจุ๊นขาดความอดทนนำมีดชายธงเสียบเข้าที่ท้องของนายทองเส็ง เพราะว่าจุ๊นทนเห็นภาพที่นายทองเส็งซ้อมแม่เพื่อที่จะเอาเงินไปเล่นการพนัน ไม่ได้ และด้วยเหตุนี้เองทำให้จุ๊นจำต้องจากอกแม่ไปที่อื่น ซึ่งจุ๊นก็ได้สัญญากับแม่ว่าจะรีบเรียนให้จบ จุ๊นหนีเข้ากรุงเทพฯ กับไอ้นก ( กีรติ เทพธัญญ์ ) เพื่อนสมัยเรียนด้วยกัน โดยอาศัยติดมากับรถขายผัก แต่ก่อนที่จุ๊นจะจัดการกับเรื่องเรียนอย่างที่ได้ตั้งในไว้ ไอ้นกก็ก่อเรื่องขึ้นเป็นเหตุให้จุ๊นต้องเข้าไปนอนในห้องขังแทน แต่ทว่าพอตำรวจสอบสวนเรื่องนี้แล้วก็ปล่อยจุ๊นออกมาเพราะว่าจุ๊นไม่มีความ ผิด โดยที่จุ๊นโทรหาพ่อให้มารับตัวและก็ไม่อยากให้แม่เศร้าใจกับเรื่องที่เกิด ขึ้น

จากนั้นพ่อก็พาจุ๊นมาอยู่ที่บ้านโดยให้พักอยู่บ้านพักคนงาน แต่ก็ยังมีความเหินห่างเกิดขึ้นในบรรดาพี่น้อง เนื่องมาจากพ่อใส่ร้ายแม่ว่าแม่หนีตามผู้ชายไป และเมื่อมาถึงวันเปิดเรียน จุ๊นก็เกือบจะมีเรื่องขึ้นอีกครั้งจากการปะทะคารมกับครูใหญ่ผู้เข้มงวด ซึ่งนักเรียนส่วนใหญ่มักเรียกว่า “ป๋า” และที่นี่เองก็ทำให้จุ๊นได้พบกับเพื่อนรุ่นพี่ชื่อ ประเวศน์ หรือ แปะ( คริตโตเฟอร์ ชอนวอชิงตัน ) ที่ทำให้ชีวิตของจุ๊นเปลี่ยนไปจากที่พ่อมักจะบอกว่าจุ๊นเป็นตัวซวย แต่สำหรับแปะแล้ว จุ๊นคือตัวนำโชคของเค้า เพราะเมื่ออยู่กับจุ๊นเค้าเล่นการพนันชนะทุกครั้ง และก็เป็นเพราะเพื่อนคนนี้เองที่ทำให้จุ๊นได้พบกับแตงกวา ( พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร ) ซึ่งจุ๊นก็เริ่มสนใจเธอทันที เพราะเธอจะกลายมาเป็นผู้ที่มีความหมายต่อชีวิตจุ๊นเป็นอย่างมาก

อาทิตย์ ใหม่ของการเรียน จุ๊นออกไปเรียนตามปกติ แต่โชคร้ายที่วันนี้เกิดเรื่องชกต่อยกันรุนแรงระหว่างจุ๊นกับบุ้ง ทำให้จุ๊นถูกป๋าเฆี่ยนตีตามกฎของโรงเรียน และในเย็นวันเดียวกันจุ๊นก็ไม่สบายเนื่องมาจากบาดแผล และถูกฤทธิ์แดดเผา โชคดีที่จุ๊นยังมีป้าเจียดและพี่ถมคอยดูแล แต่สิ่งที่เลวร้ายไปกว่านั้นนั่นคือการที่ได้รู้เห็นว่าผู้หญิงคนใหม่ของพ่อ ชื่อตุ๊กตา ( ไอริณ ศรีแกล้ว ) แอบมีชู้ โดยที่จุ๊นไม่สามารถบอกใครได้เลย แม้แต่กระทั่งพ่อ!!! จากนั้นไม่นานจุ๊นก็ได้ข่าวว่าพ่อประสบอุบัติเหตุรถคว่ำ จุ๊นจึงรีบรุดไปดู แต่สิ่งที่จุ๊นได้รับกลับมาคือความเฉยชาที่ได้จากพ่อ ทำให้จุ๊นรู้สึกว่าสำหรับตัวเองแล้วก็คือตัวซวยของพ่ออยู่ตลอดเวลา จุ๊นจึงตัดสินใจหมกตัวอยู่ในห้องโดยมีวิทยุเป็นเพื่อน ซึ่งจุ๊นได้หมุนคลื่นที่แตงกวาจัด จึงได้รู้ว่าที่โรงเรียนของแตงกวาจะมีการฉายหนังรอบการกุศล และเมื่อวันงานมาถึงจุ๊นได้พบแตงกวา ซึ่งทั้งสองก็ยิ้มให้อันอย่างเป็นมิตร

แต่ อย่างไรก็ตามจุ๊นก็ยังหนีความซวยไปไม่พ้น เมื่องานที่จัดขึ้นเกิดการชกต่อยกันจนทำให้งานต้องล้มเลิกไปกลางคัน ยิ่งไปกว่านั้นคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็คือ นายกี้ จึงทำให้จุ๊นต้องเข้าไปช่วย และด้วยเหตุการณ์นี้เองทำให้จุ๊นรู้ว่าพ่อรักลูกทุกคนเท่ากัน เพราะว่าพ่อเรียกหาทนายเริงชัยมาเพื่อหาหลักฐานว่านายกี้ไม่ได้เป็นต้นเหตุ และพ่อก็ไม่อยากต้องการจะให้ลูกคนใดคนหนึ่งต้องเข้าไปนอนในห้องขัง จุ๊นจึงช่วยพ่อหาหลักฐานโดยการโทรศัพท์ไปหาแตงกวาผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดมา เป็นพยาน เมื่อจุ๊นกลับมาถึงบ้านก็พบว่าแปะรออยู่พร้อมกับข่าวดีว่า ป๋าให้กลับเข้าไปเรียนได้ตามปกติในเทอมหน้า โดยที่จุ๊นจะต้องลาออกก่อน และแปะก็ส่งโทรเลขที่บอกว่าแม่เจ็บหนัก ให้รีบกลับนครปฐมด่วน เมื่อจุ๊นได้รับโทรเลขดังกล่าวก็รีบรุดไปหาแม่ โดยมีพี่ถมและพ่อไปด้วย ส่วนนายทองเส็งนั้นก็ยอมแลกอิสรภาพของแม่ด้วยเงินสี่หมื่นบาท และจากนั้นครอบครัวของจุ๊นก็กลับมาอบอุ่นอีกครั้ง

 

นักแสดงละคร ขอหมอนใบนั้น ที่เธอฝันยามหนุน

1. พนมกร ตังทัตสวัสดิ์ แสดงเป็น ล่องจุ๊น
2. พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร แสดงเป็น แตงกวา
3. มนตรี เจนอักษร แสดงเป็น วัชระ
4. ธัญญา วชิรบรรจง แสดงเป็น อนงค์
5. ตรีพล พรมสุวรรณ แสดงเป็น ถม
6. กิตติ บุลสถาพร แสดงเป็น กี้
7. กีรติ เทพธัญญ์ แสดงเป็น นก

ออกอากาศ ทุกวันอาทิตย์ เวลา 18.00 น. ช่อง 9

Share this article :

แสดงความคิดเห็น