Home » » แม่คุณเอ๊ย

แม่คุณเอ๊ย

 


เรือนไม้โบราณเก่าแก่ปลูกอยู่ในสวนริมคลองใหญ่ เป็นที่อยู่อาศัยของยายหลานคู่หนึ่งและแมวอีกหลายสิบตัว เรือนไม้หลังนี้ทรุดโทรมเอียงคล้ายจะหัก ต้องใช้ลวดสลิงดึงไว้ให้คงอยู่ได้ ชาวบ้านละแวกนั้นเรียกบ้านสวนริมน้ำนี้ว่า บ้านปลวก เพราะถูกปลวกกินไปทั้งหลังจนเลิกกินไปแล้ว ยายพิมพ์ อาศัยอยู่กับ สารภี หลานสาวหน้าตาดีแต่ใส่แว่นตาหนาเตอะ เธออาศัยอยู่กับยายตั้งแต่จำความได้ ไม่เคยเห็นแม้แต่หน้าพ่อแม่ของตัวเอง เพราะพ่อและแม่ประสบอุบัติเหตุเรือล่มกลางแม่น้ำเจ้าพระยาหลายสิบปีก่อน

เมื่อไม่นานมานี้มีคนกว้านซื้อที่ดินในสวนรอบข้างไปจนหมด มีแต่ยายพิมพ์ที่ไม่ยอมขาย บ้านสวนของสารภีจึงไม่มีทางออกไปถนน เพราะเจ้าของรายใหม่สร้างกำแพงปิดทางเข้าออก หากแต่สองยายหลานไม่รู้สึกเดือดร้อนอะไร เพราะชีวิตปกติสัญจรโดยทางเรือในคลองอยู่แล้ว

ชาวบ้านริมคลองแถวนั้น ต่างเรียกสารภีว่าครู เพราะสารภีเคยเป็นครูสอนพละอยู่ที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง แต่เมื่อถูกเจ้าของโรงเรียนคิดจะปลุกปล้ำ สารภีใช้วิชาศิลปะป้องกันตัวที่ได้ร่ำเรียนมา จัดการเจ้าของเสียน่วมและลาออกตั้งแต่บัดนั้น

สารภีไม่ชอบแต่งหน้าแต่งตัว เรียนจบปริญญาตรีพละ ได้รับเกียรติบัตรทางยูโด คาราเต้ และกีฬาทางน้ำ สมัยเรียน กวาดเหรียญทองจากกีฬามหาวิทยาลัยหลายประเภท รวมทั้งยังมีความสามารถด้านศิลปะการต่อสู้ไม่เป็นรองใคร....

กรกนก เป็นเจ้าของบ้านหลังงามที่อยู่ติดกับบ้านสวนของสารภี เธอเป็นคนสวยเปรี้ยว เป็นไม้เบื่อไม้เมากับบ้านปลวกอยู่เสมอ เพราะไม่พอใจที่ไม่ยอมขายที่ดินให้ตัวเอง กรกนกเคยส่งคนงานชายมารังควานสารภีถึงบ้าน ดีที่สารภีเก่งพอตัว จึงจัดการพวกนั้นเสียสะบักสะบอม

ตอนกลางคืนกรกนกมักจะจัดงานเลี้ยง แกล้งเปิดเพลงเสียงดังลั่นเหมือนจะให้ได้ยินกันไปทั้งคลอง วันหนึ่งสารภีทนไม่ไหว เธอจึงแอบติดฮอร์นและหันลำโพงไปทางบ้านกรกนก เอาปี๊บ กะละมัง ถังน้ำมันมาทำเป็นกลอง บรรเลงบรรลัย ประชันเสียงดังสนั่นหวั่นไหว กรกนกโกรธแจ้งตำรวจว่าสารภีก่อกวน เมื่อตำรวจไปถึงบ้านสวน เห็นสารภีกำลังบรรเลงอย่างไม่ยั้งมือ คิดจะจับไปดำเนินคดี ดีแต่สารภีขอความเป็นธรรม แจ้งว่ากรกนกทำเสียงดังก่อน พอสอบสวนเข้าจริงถึงได้รู้ว่ากรกนกต่างหากที่เป็นตัวการความขัดแย้ง ร.ต.อ. เวไนย จึงไม่ได้เอาผิดกับสารภี

เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความประทับใจให้กับสารวัตรหนุ่มอยู่ลึก ๆ ชื่นชมความกร้าวแกร่งของสาวสารภีอย่างบอกไม่ถูก...

กรกนกเคยสนิทสนมกับ ชิตพงษ์ หนุ่มใหญ่นักธุรกิจข้ามชาติสัญชาติไทย-อเมริกันคนหนึ่งอย่างลับ ๆ หากแต่ในช่วงสี่ห้าปีหลังห่างเหินกันไป ในวงการธุรกิจเป็นที่รู้กันว่าชิตพงษ์เป็นผู้มีอิทธิพลระดับมาเฟียข้ามชาติ ทำธุรกิจทั้งใต้ดินบนดิน

ชิตพงษ์เพิ่งกลับมาเมืองไทยอีกครั้งได้ไม่นาน พยายามสานสัมพันธ์เก่ากับกรกนกเพื่อร่วมงานบางอย่าง แต่เธอยังคงบ่ายเบี่ยงไม่ยอมรื้อฟื้นความหลัง ชิตพงษ์มี กวิน เป็นมือขวาคนสนิท ช่วยทำงานทั้งสุจริตและทุจริตทุกประเภท

หลังจากเกิดเรื่อง บ้านปลวกริมน้ำก็ได้รับแขกเป็นนายตำรวจสารวัตรมือปราบที่ชื่อเวไนยอยู่บ่อย ๆ สารภีไม่รังเกียจที่จะรับเขาเป็นเพื่อน เพียงแต่ในใจรู้ดีว่าคงไม่มีอะไรเกินเลยไปกว่านั้น

สารภีไปเป็นทำงานพิเศษ สอนเจ็ทสกีให้กับสปอร์ตเซ็นเตอร์แห่งหนึ่งทุกวันเสาร์ อาทิตย์ ที่นั่นเธอได้รู้จักกับ เด็กชายเอก ซึ่งเป็นเด็กหน้าตาน่าเอ็นดู แต่แก่นอย่างร้ายกาจ ด้วยความแก่น เอก เกือบจะประสบอุบัติเหตุเพราะคิดว่าจะขับเจ็ทสกีโดยไม่ต้องเรียน โชคดีที่สารภีลงไปช่วยเขาไว้ได้ทัน เอกเกิดความรู้สึกชอบสารภี เขาขอร้องให้เธอมาเป็นครูสอนเจ็ทสกีให้เขา...

จากการสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว สารภีรู้ว่าลูกศิษย์ของตนเรียนหนังสือเก่ง เป็นเด็กกำพร้าหลานชายคนเดียวของนักธุรกิจใหญ่ที่ร่ำรวย เด็กชายเอกให้สัญญากับเธอว่าจะมาหัดเล่นเจ็ทสกีกับเธอทุกอาทิตย์

สารภีออกหางานใหม่ เธออ่านข่าวเจอการประกาศรับสมัครหัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยของ บริษัท สยามพาเรด จำกัด ด้วยความเป็นหญิงเก่ง สารภีไม่ลังเลเลยที่จะไปสมัครในตำแหน่งนี้ ปรากฎว่าเธอเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ไปสมัครท่ามกลางชายร่างกำยำหลายคน เทวัญ ขวัญฟ้า เจ้าของบริษัทเป็นคนสัมภาษณ์ด้วยตัวเอง

เมื่อแรกพบกับสารภี เทวัญไม่เชื่อว่าผู้หญิงอย่างเธอจะมาทำงานในตำแหน่งนี้ได้ ทั้งคู่ปะทะคารมกันอย่างหนักหน่วง เพราะสาวมั่นอย่างสารภีเชื่อในความสามารถของผู้หญิง ถือในสิทธิสตรีที่มีเท่าเทียมกับชายทุกประการ

ส่วนเทวัญรู้สึกแต่เพียงว่าสิ่งที่สารภีพูด เป็นไปได้เพียงแค่ความคิดในอุดมคติเท่านั้น... เทวัญไม่รับสารภีเข้าทำงาน แต่เขาก็ยังไม่ได้รับคนอื่นเข้ามาทำในตำแหน่งนี้ ยังคงต้องประกาศรับสมัครต่อไป สารภีเกิดความฮึดอยากเอาชนะเทวัญ จึงมาสมัครตำแหน่งนี้อีกในวันถัดมา ซึ่งเทวัญก็เป็นคนสัมภาษณ์เช่นเคย การปะทะคารมในประเด็นความเท่าเทียมกันทางเพศของคนทั้งคู่เกิดขึ้นอีกครั้ง สร้างความปวดหัวให้กับเหล่าพนักงานในบริษัทเป็นอย่างยิ่ง แม้ครั้งนี้ผลการปะทะคารม เทวัญจะจำนนด้วยเหตุผล แต่ผลลัพธ์ของการสัมภาษณ์ก็ยังคงออกมาเหมือนเดิม คือเทวัญไม่รับสารภีเข้าทำงาน...

เทวัญเดินหนีสารภีออกไปขึ้นลิฟท์ตรงไปยังชั้นผู้บริหาร สารภีนึกไม่พอใจขึ้นลิฟท์อีกตัวหนึ่งตามเทวัญขึ้นไป เธอขึ้นไปกับผู้ชายอีกกลุ่มหนึ่ง โดยไม่รู้มาก่อนเลยว่าความจริงแล้วคนกลุ่มนี้เป็นโจรที่จะมาปล้นบริษัทฯ ! ขณะกำลังจะเอ่ยปากต่อล้อต่อเถียงกับเทวัญบนชั้นผู้บริหาร โจรเหล่านั้นก็แสดงตัวปิดชั้นผู้บริหารไว้ ขู่กรรโชกเงินเป็นจำนวนหลายล้านบาท เทวัญกับผู้บริหารคนอื่นอึ้งไม่มีทางออก...

แต่แล้วในที่สุด ด้วยความสามารถที่ไม่มีใครคาดคิดของสารภี เธอสามารถจัดการกับโจรทั้งหมดได้โดยง่าย ทุกคนปลอดภัย เทวัญทึ่งในความสามารถของสารภี จำต้องรับเธอเข้าทำงานในบริษัทโดยไม่มีข้อแม้...

เทวัญ ขวัญฟ้า เป็นพ่อม่ายเนื้อหอม ภรรยาเขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเมื่อสามปีก่อน ความจริงกิจการสยามพาเหรดเป็นของกิจการของครอบครัวภรรยา เทวัญเป็นเพียงลูกชายคนเก่าคนแก่ในบ้านซึ่งขยันหมั่นเพียร ได้ทุนเรียนจบปริญญาโท และสามารถเอาชนะใจลูกสาวเจ้าของบ้านในที่สุด เมื่อภรรยาซึ่งเทวัญรักมากที่สุดเสียชีวิตลง โลกด้านสดใสของเทวัญก็ดับสิ้น ชีวิตเขาอุทิศให้แต่งานและการดำเนินธุรกิจบริษัทให้ก้าวหน้า เทวัญทำงานเหมือนเป็นเครื่องจักร กลายเป็นคนไร้หัวใจ จิตใจขาดแล้วซึ่งความรักและอาทร…

เทวัญตกลงให้สารภีทำงานเป็นเลขาของเขาบนชั้นผู้บริหาร ด้วยความหมั่นไส้วันหนึ่งเขาจึงแกล้งมอบหมายให้เธอแปลเอกสารภาษาอังกฤษ และสั่งห้ามเธอกลับบ้านจนกว่าเขาจะเข้ามาในห้องทำงานอีกครั้ง จากภารกิจมากมายในวันนั้น เทวัญลืมสารภีไปเสียสนิท ส่วนสารภีก็ฮึดทำงานจนเพลิน มารู้ตัวอีกทีก็ดึกมาก กลับบ้านไม่ได้เพราะประตูชั้นผู้บริหารถูกล็อคจากด้านนอก สารภีโกรธเทวัญเป็นอย่างมาก พยายามโทรหาเขาแต่ก็ติดต่อไม่ได้ แต่ในคืนที่สารภีติดอยู่ที่บริษัทนั้นเอง มีคนร้ายแอบเข้ามาจะงัดตู้นิรภัยในห้องเทวัญ สารภีเลยต่อสู้แล้วจัดการจนสลบคาที่

สารภีหาทางติดต่อเทวัญจนได้ แจ้งเขาว่าบริษัทถูกปล้น เทวัญรีบมาช่วยเธอและอาสาไปส่งเธอถึงที่บ้าน วันนั้นเองที่เทวัญรู้ว่าบ้านสารภีก็คือ บ้านปลวก ซึ่งอยู่ หลังบ้านกรกนก พี่สาวภรรยาของเขานั่นเอง เทวัญได้แต่อ้ำอึ้งไม่ยอมบอกความจริงกับสารภี เพียงเก็บความลับเอาไว้เงียบ ๆ พอถึงวันเสาร์ เด็กชายเอกนำเช็คเงินสดห้าหมื่นบาทมาให้สารภี บอกว่าอาของเขาต้องการขอบคุณครูที่ช่วยชีวิตเอกไว้จากอุบัติเหตุครั้งก่อน แต่สารภีไม่ยอมรับเพราะเธอช่วยโดยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน เหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้สารภีรู้ว่าอาของเอกก็คือเทวัญ เจ้านายคนปัจจุบันของเธอ !

สารภีไม่ยอมบอกเอกเพราะไม่ต้องการให้เทวัญรู้ว่าเธอคือครูสอนเจ็ทสกีกลัวจะมีปัญหากับงานที่เพิ่งได้ทำ ด้วยความเป็นเด็ก เอกเล่าให้สารภีฟังอีกว่าเขามีป้าชื่อกรกนก แต่เขาไม่ชอบกรกนกเพราะชอบทำตัววุ่นวายเหมือนเป็นแม่ กรกนกมักจะยุยงหลานให้เกลียดผู้หญิงทุกคนที่เข้าใกล้เทวัญ

วันเสาร์หนึ่งเทวัญพาเอกไปเรียนเจ็ทสกี สารภีต้องออกอุบายหลบหนีต่างๆ นานาเลี่ยงไม่ยอมพบเทวัญ อ้างว่าจะไม่ยอมออกมาสอนจนกว่าเขาจะกลับไป เทวัญคิดว่าครูของเอกต้องเป็นผู้หญิงแก่โอลเมทแน่นอน... เขาเอาเรื่องมาคุยให้สารภีซึ่งเป็นเลขาฟังอยู่เสมอ ซึ่งสารภีก็เอาตัวรอดหนีการเผชิญหน้าที่สปอร์ตคลับได้ทุกครั้งแต่วันหนึ่งสารภีก็พลาดจนได้ สารวัตรเวไนยมาหาเธอที่สปอร์ตคลับพร้อมกับเทวัญ เพื่อสอบสวนเรื่องคนร้ายที่บุกเข้าไปในตึก เหตุการณ์วันนั้นเองทำให้เทวัญจับได้ว่าสารภีคือครูที่สอนเจ็ทสกีให้เอก หลานชายของเขานั่นเอง

เทวัญตำหนิสารภีว่าไร้สาระที่กลัวว่าเขาจะไล่ออกเพียงเพราะเธอไปทำงานพิเศษ สารภียังไม่วายต่อล้อต่อเถียงเทวัญอีกยกใหญ่ กลายเป็นความเคยชินของเจ้านายและเลขาคู่นี้ ที่มักจะปะทะคารมให้พนักงานทั่วไปได้เห็นอยู่เสมอเมื่อเวลาผ่านไป...เทวัญกับสารภีเริ่มสนิทกันมากขึ้น ความตรงไปตรงมา เป็นผู้หญิงแกร่งของสารภี เริ่มสร้างความประทับใจให้กับเทวัญ โดยที่เขาไม่รู้ตัว...เช่นเดียวกับสารภี เทวัญเปรียบเหมือนตัวแทนของพ่อซึ่งเธอไม่เคยรู้จัก ท่าทางที่จริงจังกับงาน มุ่งมั่นในความสำเร็จของเทวัญ ทำให้เธอเริ่มรู้สึกนิยมผู้ชายคนนี้อย่างบอกไม่ถูก แต่ยังไม่ยอมรับใจตัวเอง...

เทวัญต้องการให้สารภีมีรถยนต์ประจำตำแหน่ง ให้สารภีไปเลือกรถตามต้องการ เลขาสาวแกร่งกลับเลือกขี่มอเตอร์ไซด์ชอปเปอร์ เทวัญนึกสนุกซื้อให้ตามใจหลังจากนั้น...บ่อยครั้งในการไปประชุมต่างบริษัท เจ้าของบริษัท สยาม พาเหรด จะได้มีโอกาสซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์เลขาสาวยามรถติด สร้างความสนิทสนมให้กับเจ้านายและเลขามากขึ้นเรื่อย ๆ โดยที่เด็กชายเอกไม่เคยเห็นหน้าเลขาของอาเลยสักครั้ง เขาสนิทสนมกับสารภีครูสาวสอนเจ็ทสกี โดยไม่รู้ว่าเป็นคน ๆ เดียวกัน...

อารมณ์ของเทวัญเย็นขึ้นกว่าเดิมอย่างที่ตัวเองก็ไม่เข้าใจ เช่นเดียวกันกับสารภีที่เริ่มใส่ใจดูแลตัวเอง สนใจในความสวยความงาม และมีมารยาทงาม มีความเป็นหญิงมากขึ้น... นอกจากจะซื้อมอเตอร์ไซด์ให้สารภี เทวัญยังพังกำแพงบ้านของกรกนกที่ขวางทางเข้าออกระหว่างบ้านปลวกกับโลกภายนอก ยังความไม่พอใจให้กับกรกนกเป็นอย่างยิ่ง พยายามทัดทานเทวัญสารพัด แต่เขาไม่ฟัง อ้างว่าทำไปเพื่อความสะดวกในการทำงานของเลขาส่วนตัว กรกนกได้แต่เก็บความแค้นไว้ในอก รอวันจะระเบิดออกมา ยิ่งได้รู้ว่าเลขาเทวัญคือสารภีคู่ปรับเก่า เธอยิ่งแทบคลั่ง

ชิตพงษ์เข้ามาสนิทสนมกับกรกนกมากยิ่งขึ้น เมื่อกรกนกตระหนักว่าตัวเองไม่อาจสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับน้องเขยอย่างเทวัญได้ เธอจึงยอมให้ชิตพงษ์ผ่านเข้ามาในชีวิตอีกครั้ง ทั้งคู่วางแผนทำอะไรบางอย่างเพื่อประโยชน์ร่วมกัน... ยายพิมพ์ไม่ค่อยพอใจนักที่เห็นสารภีสนิทกับเทวัญ พยายามกีดกันทุกอย่าง อยากให้สารภีชอบพอกับสารวัตรเวไนยมากกว่า เพราะมีฐานะระดับเดียวกัน ไม่สูงเกินไปนัก บ่อยครั้งการพบกันระหว่างเทวัญกับสารภีเลขาคนสนิทในวันหยุด จะต้องถูกขัดจังหวะจากนายตำรวจเวไนย ด้วยความตั้งใจและสนับสนุนของยายพิมพ์ ยังความโกลาหลให้กับชุมชนริมคลอง ที่ใกล้ชิดกับบ้านปลวกอยู่ไม่น้อย

ความสามารถในการขี่มอเตอร์ไซด์ของสารภีเข้าตาเอเจนซี่แห่งหนึ่ง ถึงกับติดต่อมาทางเทวัญ ขอให้สารภีเป็นพรีเซนเตอร์มอเตอร์ไซค์วิบาก ตอนแรกเทวัญปฏิเสธ แต่เมื่อสารภีรู้และเอ่ยปากว่าต้องการพิสูจน์เรื่องความสามารถของสตรี ที่มีเท่าบุรุษทุกอย่าง เทวัญจึงเอ่ยปากอนุญาตให้สารภีเป็นนางแบบ โฆษณามอเตอร์ไซค์วิบากที่สารภีเป็นพรีเซนเตอร์ ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก ทำให้ในที่สุดเอกจึงรู้ว่าครูสารภีเป็นคน ๆ เดียวกับเลขาสาวที่อาของเขาเอามาเล่าให้ฟังอย่างนิยมชมชอบอยู่บ่อย ๆ

ด้วยความเป็นเด็ก เอกซึ่งรักเทวัญมาก ไม่อยากให้ใครมาแทนที่พ่อแม่ของตัวเองที่ตายไป เขาโกรธสารภี คิดว่าเธอหลอกใช้เขามาโดยตลอด หาว่าเธอคบกับเขาเพื่อเป็นสะพานต่อไปยังเทวัญผู้เป็นอา สารภีเสียใจพยายามอธิบายความจริงให้เอกรู้ แต่เอกก็ไม่ยอมเข้าใจ ประกอบกับกรกนกคอยยุยงให้เด็กชายเข้าใจผิด ความสัมพันธ์อันดีระหว่างครูสารภีกับเอกจึงมีปัญหา ยังความสะใจให้กับกรกนกอย่างบอกไม่ถูก

ปัญหาของบริษัทสยามพาเหรดเพิ่มมากขึ้น เทวัญตรวจพบการบริหารงานที่ล้มเหลวของฝ่ายการตลาด เมื่อเขากับสารภีสืบสาวเรื่องราว พบว่าต้นเหตุมาจากคนที่กรกนกส่งเข้ามาทำงานในบริษัท มีหลักฐานการฉ้อโกงบริษัทหลายล้านบาท โดยย้ายเงินเข้าบัญชีบริษัทข้ามชาติของชิตพงษ์ ซึ่งมีกวินเป็นมือขวาอยู่เทวัญยื่นคำขาดกับกรกนกให้ชดใช้ความเสียหายทั้งหมด แต่กรกนกปากแข็งปฏิเสธอยู่ตลอดเวลาว่าไม่ได้เป็นคนทำ อ้างเรื่องบุญคุณของพ่อ จนเทวัญต้องยอมให้อภัยเธอ แต่คาดโทษไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก

เมื่อเทวัญเดินทางกลับบ้าน กรกนกเข้าไปปรึกษากับชิตพงษ์ ชิตพงษ์บอกว่าต้องจัดการให้เทวัญจบชีวิตลง ไปเหมือนกับน้องสาวของกรกนก... ในวันหนึ่งหลังจากเทวัญและสารภีกลับจากตรวจงานที่โรงงานบริเวณนิคมอุตสาหกรรมระยอง รถประจำตำแหน่งของเขาถูกขนาบข้างด้วยกลุ่มมือปืน ยิงกระหน่ำเข้ามาราวห่าฝน สารภีขับรถหนีสุดชีวิต ทั้งคู่ไปจนตรอกอยู่ที่ริมหน้าผาแห่งหนึ่ง ท่ามกลางการไล่ล่าของกลุ่มมือปืน ด้วยความสามารถในการต่อสู้ของสารภี เธอพยายามปกป้องเทวัญสุดชีวิต...

แม้ว่าทั้งคู่จะรอดพ้นจากการโจมตีของเหล่าร้าย แต่เทวัญต้องบาดเจ็บสาหัส เพราะสละตัวเองเป็นเป้ากระสุนจากปืนกระบอกหนึ่งที่เล็งยิงมาที่สารภี สารภีตกใจสุดชีวิต รีบพาเจ้านายของเธอส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันที เริ่มตระหนักในจิตใจว่าผู้ชายคนนี้สำคัญกับชีวิตของเธอมากเพียงใด

เทวัญรอดตายได้ราวปาฏิหาริย์ สารภีคอยดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด เทวัญรู้ซึ้งถึงใจตัวเอง เขาบอกรักเธอ แต่สารภีก็ยังตอบเขาไม่ได้ว่าเธอรักเขารึไม่ ความสนิทสนมระหว่างอาเทวัญและครูสารภี อยู่ในสายตาของเด็กชายเอกตลอดเวลา ความรู้สึกกลัวที่จะถูกแย่งความรักผุดขึ้นมาในความคิดเด็กน้อยอีกครั้ง...

เมื่อกรกนกรู้ว่าเทวัญสนิทสนมกับสารภีจนถึงขั้นจะไปขอกับยายพิมพ์กรกนกยิ่งใส่ไฟเรื่องสารภีกับเอก เด็กชายสับสนมากขึ้นเรื่อย ๆ หนีออกจากบ้านเทวัญท่ามกลางฝนที่ตกหนัก เพื่อไปขอพักอยู่กับกรกนกอย่างเด็กขาดที่พึ่ง ในวันเดียวกัน กรกนกโทรศัพท์ไปหาสารภี กล่าวหาว่าสารภีเป็นคนทำให้อาหลานเขาทะเลาะกัน สารภีเสียใจรีบออกมาหาเอกที่บ้านกรกนก ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่เทวัญมาหาหลานเช่นกัน

วันนั้นเอกจับไข้เพ้อตลอดคืน เทวัญสงสารหลานจับใจ กรกนกแกล้งทำตัวเป็นป้าที่ดี ดูแลเอกต่อหน้าเทวัญ จนเทวัญเอ่ยปากขอบคุณอย่างจริงใจ กรกนกยิ้มโผเข้ากอดเทวัญแล้วสารภาพความในใจจนหมดสิ้น บอกว่าตัวเองแอบชอบเขามานานแล้ว อยากให้เทวัญให้โอกาสเธอ...

ภาพการกอดกันระหว่างกรกนกกับเทวัญอยู่ในสายตาของสารภีที่เข้ามาในบ้านพอดี เธอสะเทือนใจกับภาพที่เห็น เข้าใจผิดไปต่าง ๆ นานา วิ่งออกจากบ้านไปท่ามกลางสายฝน โดยไม่บอกใครสักคนว่าเธอมาเยี่ยมเอกแล้ว เทวัญพูดกับกรกนกว่าเขาไม่อาจคิดกับเธอเป็นอย่างอื่น ชีวิตนี้ของเขาอยู่เพื่อหลานเท่านั้น แม้กรกนกจะไม่สบอารมณ์ แต่เธอก็ยังระงับความรู้สึก ด้วยตระหนักว่าแผนการของเธอสัมฤทธิ์ผลมาขั้นหนึ่งแล้วฝ่ายสารภีรู้ตัวแล้วว่าเธอรักเทวัญมากเพียงใด แต่เธอคิดว่าไม่ควรทำตัวเป็นปัญหาในครอบครัวของเทวัญ หากกรกนกแต่งงานกับเทวัญอาของเอก ทุกอย่างจะลงตัวที่สุด...

ยายพิมพ์เป็นห่วงหลานสาวจับใจ โทรตามให้เวไนยมาเยี่ยมสารภี และในวันนั้นเองที่เวไนยสารภาพความในใจขอสารภีแต่งงาน เพราะต้องการให้ตัวเองลืมความสัมพันธ์กับครอบครัวเทวัญ สารภีจึงตกปากรับคำจะแต่งงานกับนายตำรวจหนุ่มโดยดุษฎี

วันต่อมาสารภีไปลาออกจากบริษัทสยามพาเหรด ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของเพื่อนพนักงานทุกคน เทวัญพยายามอ้อนวอนขอให้เธออยู่ต่อ แต่ก็ไม่เป็นผล เทวัญนึกน้อยใจที่สารภีไม่เห็นถึงความผูกพันที่เขามีต่อเธอบ้างเลยสักนิด สารภีอ้างว่าสิ่งที่เธอทำลงไป ดีที่สุดสำหรับทุกคนแล้ว...

สารภีไปลาเอกที่บ้านของกรกนก แต่เอกยังโกรธเธอไปตามประสาเด็ก ไม่ยอมให้ครูสารภีเข้าพบ ซ้ำยังด่าว่าเสีย ๆ หาย ๆ แม้สารภีจะเสียใจยังไงก็ตาม แต่เธอก็เข้าใจจิตใจเด็กน้อยเป็นอย่างดี ต้องเดินกลับออกไปด้วยจิตใจที่แตกสลาย คืนวันนั้นเทวัญเสียใจกินเหล้าจนเมามาย เรียกเอกออกมาสั่งสอนว่า นอกจากพ่อกับแม่และอาแล้ว ขอให้เอกมั่นใจเถอะว่าไม่มีใครที่จริงใจกับเอกเท่าครูสารภี เด็กน้อยถึงกับอึ้ง ภาพความผูกพันระหว่างเขากับสารภีผ่านเข้ามาในความคิด เขาเริ่มตระหนักว่าตัวเองรักสารภีไม่น้อยไปกว่าเทวัญ และไม่น้อยไปกว่าแม่แท้ ๆ ...

เมื่อเทวัญหลับไปแล้ว เอกแอบออกจากบ้านจะไปหาครูสารภี แต่เมื่อเขาเดินผ่านสวน กลับเห็นกรกนกกำลังคุยกับชิตพงษ์ บอกว่าล้างสมองเอกเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้สารภีออกไปจากชีวิตเทวัญ แผนการทุกอย่างกำลังสัมฤทธิ์ผล เอกโกรธกรกนกมาก พุ่งออกไปด่าว่ากรกนก จึงถูกชิตพงษ์จับไปเป็นตัวประกัน

รุ่งเช้าเทวัญเข้าไปแจ้งความกับเวไนยว่าเอกหายไป เวไนยจึงบอกรายละเอียดที่เพิ่งสืบรู้มา ว่าคนที่เข้าปล้นบริษัทสยามพาเหรดทั้งสองครั้งเป็นคนของชิตพงษ์ เขาสงสัยว่ากรกนกจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เพราะขณะนี้กรกนกก็หายตัวไปเช่นกัน

สารภีเมื่อรู้ว่าเอกถูกจับตัวไป เธอร้อนใจรีบออกตามหาตามลำคลองต่าง ๆ เพราะเธอรู้มาว่าชิตพงษ์มีกิจการอู่ต่อเรือริมแม่น้ำ สารภีตามรอยมาจนถึงอู่ต่อเรือย่านปากเกร็ด ซุ่มอยู่ที่อู่เรือนั้นจนกระทั่งถึงเย็น ระหว่างนั้นเอกที่ถูกจับ ใช้ความสามารถของตัวเองแอบขับเจ็ทสกี จะหนีออกมาได้อยู่แล้ว ชิตพงษ์กับกวินออกมาเห็นเสียก่อน แต่ก่อนที่ชิตพงษ์จะทำอะไรเด็กน้อยได้ สารภีก็ปรากฏตัวขึ้น เธอปราดเข้าไปช่วยเอกให้ออกมาจากการจับกุม ทั้งสองหนีการไล่ล่าของกวินและชิตพงษ์เป็นพัลวัน

สารภียอมเสี่ยงชีวิตตัวเอง เอาตัวกำบังร่างเอกที่กำลังโดนชิตพงษ์เล็งปืนมา ร่างของเธอเซถลาตกลงในแม่น้ำ ท่ามกลางความตกใจของเอกเป็นอย่างยิ่ง ก่อนที่ทุกอย่างจะเลวร้ายลงไปอีก เทวัญนำเวไนยและกำลังตำรวจเข้ามาช่วยพอดี ตำรวจยิงชิตพงษ์กับกวินตายคาที่ เทวัญตัดสินใจกระโดดลงไปในแม่น้ำ ดำผุดดำว่าย งมหาร่างสารภีอย่างไม่คิดชีวิต

ในที่สุดสารภีก็ปลอดภัยในอ้อมกอดของเทวัญ กระสุนเพียงเฉี่ยวร่างเธอเท่านั้น ในระหว่างทางไปโรงพยาบาล ทั้งคู่กอดกันอย่างไม่อายต่อสายตาผู้คน พร่ำพรรณนาถึงความในใจที่มีต่อกันและกัน... เวไนยมองภาพนี้อย่างปวดร้าว แต่พยายามทำใจให้ยอมรับและเข้าใจรู้ว่าคนทั้งคู่รักและผูกพันกันมากมายเพียงใด เขายินดีหลีกทางให้ความรักของคนทั้งคู่ด้วยความจริงใจ...

เมื่อความจริงทั้งหมดปรากฎ กรกนกต้องชดใช้กรรมที่ก่อไว้ ต้องติดคุกตลอดชีวิตในคดีร่วมมือกันฆ่าน้องสาวแท้ๆ ของตัวเอง รวมทั้งวางแผนจะฆ่าคนในครอบครัวอีกหลายคนในที่สุดชีวิตของเด็กชายเอกก็มีพร้อมหน้า อีกครั้ง แม้สารภีจะเป็นเพียงอาสะใภ้ แต่มั่นใจได้ว่าเธอรักเขาไม่น้อยไปกว่าแม่แท้ ๆ เลย...

เทวัญก็เรียนรู้ที่จะรักใครอีกคนหนึ่ง สารภีไม่อาจแทนที่ภรรยาคนเก่าของเขาได้ แต่เธอเป็นผู้หญิงที่เขามั่นใจว่ารักเธอสุดชีวิตเช่นกัน... สารภีได้มีครอบครัวที่สมบูรณ์ เทวัญเป็นทั้งคนรักและผู้ปกครองที่จะนำพาชีวิตเธอให้ก้าวหน้า ไม่ต้องโลดแล่นอยู่บนโลกใบนี้อย่างโดดเดี่ยวต่อไปอีกแล้ว
Share this article :

แสดงความคิดเห็น