หีบหลอนซ่อนวิญญาณ

พ.ศ. 2532 ณ คุ้มสายคำ จ. เชียงใหม่ แม่เลี้ยงสายคำ(อรัญญา นามวงศ์) เจ้าของธุรกิจทอผ้าไหมผู้มั่งคั่ง ได้จัดงานเลี้ยงขันโตกเนื่องในวันคล้ายวันเกิดของตน โดยในงานมีการแสดงฟ้อนเล็บ ซึ่งหนึ่งในช่างฟ้อนคือเอื้องจันทร์(เก็จมณี วรรธนะสิน) สาวงามที่หนุ่มๆ หมายปอง รวมทั้งขวัญเมือง(จักรกฤษณ์ อำมรัตน์) สามีของเดือนวาด(เมย์ เฟื่องอารมย์) ลูกสาวคนโตของแม่เลี้ยง

ส่วนพิมพ์ดาว(สินิทรา บุณยศักดิ์) ลูกสาวคนเล็กของแม่เลี้ยงสายคำมีคู่หมายแล้วคือวรุณ(สถาพร นาควิลัย) พ่อเลี้ยงหนุ่มรูปงาม ซึ่งแม่เลี้ยงสายคำตั้งใจจะประกาศการแต่งงานของสองคนในงานเลี้ยงนี้ แต่วรุณกลับสารภาพว่าเขารักอยู่กับเอื้องจันทร์ ทำให้แม่เลี้ยงสายคำและพิมพ์ดาวโกรธมาก

ในคืนนั้นวรุณแอบนัดกับเอื้องจันทร์เพื่อจะหนีตามกันไป โดยให้จุ่น(ด.ช.ปดลเดช กมลาศัยกุล) ลูกชายของมาลัย(ชุติมา นัยนา) ช่างทอผ้าเพื่อนของเอื้องจันทร์มาบอกให้เอื้องจันทร์ไปรอที่โรงทอผ้าไหม เอื้องจันทร์รีบไปตามนัด แต่แล้วจู่ๆ เธอก็โดนทุบศีรษะจนหมดสติ คนที่ทำร้ายเธอคือแม่เลี้ยงสายคำและพิมพ์ดาว ทั้งสองนำร่างของเอื้องจันทร์ไปกลางป่าเพื่อฆ่าทิ้ง โชคดีเอื้องจันทร์ได้สติหนีรอดมาได้ แต่ก็มาเจอขวัญเมืองฉวยโอกาสจะปลุกปล้ำอีก เอื้องจันทร์เลยต้องหนีลงไปหลบในหีบเก็บผ้าโบราณ

ขณะที่ขวัญเมืองกำลังจะเจอเอื้องจันทร์ เดือนวาดที่ตามหาขวัญเมืองอยู่ก็เข้ามาขัดจังหวะ ทำให้เดือนวาดเห็นพิรุธที่หีบเก็บผ้าใบใหญ่ พอรู้ว่าเอื้องจันทร์ซ่อนอยู่ในนั้น ก็คิดว่าเอื้องจันทร์ต้องแอบลักลอบมาพบกับขวัญเมืองสามีเธอแน่ๆ เลยแกล้งลั่นกุญแจปิดตาย เอื้องจันทร์ตกใจมากเธอร้องขอความช่วยเหลือสุดเสียงแต่ไม่มีใครได้ยิน

เดือนวาดสั่งให้บุญตา(ทองขาว ภัทรโชคชัย) คนสนิทขนหีบไปทิ้งบึงน้ำหลังบ้าน ระหว่างที่กำลังขนจุ่นมาเห็นเหตุการณ์จึงร้องให้คนช่วย เดือนวาดเลยสั่งให้บุญตาฆ่าจุ่นแล้วทิ้งศพลงในบึงน้ำ ส่วนเอื้องจันทร์ก็โดนเดือนวาดและพิมพ์ดาวจับกดลงไปในหีบ เอื้องจันทร์ต่อสู้สุดชีวิต แต่ก็สู้แรงสองพี่น้องไม่ไหว ในที่สุดเอื้องจันทร์ก็โดนจับขังในหีบ แต่เฮือกสุดท้ายเอื้องจันทร์คว้าสร้อยทับทิมของเดือนวาดติดมือไปด้วย

เดือนวาดสั่งให้บุญตา ผลักหีบลงน้ำ เอื้องจันทร์จึงขาดใจตายอยู่ในหีบอย่างทรมาน ส่วนวรุณก็โดนลอบทำร้ายจนหมดสติ เมื่อตื่นขึ้นมาก็ไม่พบเอื้องจันทร์แล้ว แม่เลี้ยงสายคำและพิมพ์ดาวเลยใส่ความว่าเอื้องจันทร์หนีตามผู้ชายไป วรุณเสียใจมากและหายหน้าไปด้วยความตรอมใจ ส่วนมาลัยแม่ของจุ่นก็โศกเศร้าเสียใจที่ลูกชายตายไปจนกลายเป็นคนเสียสติ

เรื่องราวในคืนนั้นจึงกลายเป็นความลับดำมืด ที่ไม่มีใครรู้ว่าเอื้องจันทร์หายไปไหน มีเพียงอุ๊ยทา(ถั่วแระ เชิญยิ้ม) ชายแก่ขี้เมาคนเฝ้าโรงทอผ้าไหมที่เป็นคนเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด แต่ด้วยความกลัวจึงไม่กล้าปริปากบอกใคร หลังเหตุการณ์คืนนั้น แม่เลี้ยงสายคำก็ปิดตายโรงงานทอผ้าไหม แล้วย้ายครอบครัวลงไปทำธุรกิจที่กรุงเทพฯ

พ.ศ. 2550 กรุงเทพ สายไหม(พิชญา ศรีเทพย์) ลูกสาวของขวัญเมืองและเดือนวาดที่เพิ่งเรียนจบ เธอเป็นสาวสมัยใหม่ที่มั่นใจในตัวเอง และต้องการจะทำธุรกิจโฮมสเตย์ที่คุ้มสายคำเรือนไทยเก่าแก่ของครอบครัว ซึ่งทุกคนในบ้านต่างพากันคัดค้าน แต่สายไหมก็รั้นไม่ยอมฟัง เธอเลยชวนติ่มซำ(เอกชัย เอื้อสังคมเศรษฐ์) เพื่อนสนิทขึ้นไปดูสถานที่ที่เชียงใหม่

ระหว่างเดินทางสายไหมได้พบกับพรรษา(อลงกรณ์ ต้นหนองดู่) นายตำรวจหนุ่มที่เพิ่งย้ายมารับราชการที่เชียงใหม่ พรรษาประทับใจในตัวสายไหมทันที เมื่อถึงคุ้มสายคำสายไหมและติ่มซำได้พบกับอุ๊ยทา คนดูแลคุ้มที่ป่วยด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง และมาลัยหญิงบ้าที่อุ๊ยทาต้องดูแล บรรยากาศในคุ้มดูวังเวงน่ากลัวจนติ่มซำอยากจะหนีกลับ แต่สายไหมยืนยันว่าจะปรับปรุงบ้านและโรงงานผ้าไหมเก่าแก่ ให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิปให้ได้

กลางดึกคืนนั้นสาย ไหมฝันเห็นเด็กมากวักมือเรียกให้ตามไปที่บึงน้ำหลังบ้าน เด็กคนนั้นชวนเธอพายเรือออกไปกลางน้ำ แต่ก่อนที่สายไหมจะลงเรือ เกิดได้ยินเสียงกรี๊ดลั่นของติ่มซำซะก่อน สายไหมเลยรีบวิ่งกลับบ้านไปหาติ่มซำ ติ่มซำละล่ำละลักบอกว่าได้ยินเสียงต่างๆ มากมายในฝัน ทั้งเสียงกลอง เสียงกี่ทอผ้าที่ขยับโครมคราม เสียงผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลือเป็นภาษาคำเมือง สายไหมเลยปลอบใจว่าติ่มซำคิดฟุ้งซ่านไปเอง

วันรุ่งขึ้นเรวัติ(กริช หิรัญพฤกษ์) พ่อเลี้ยงหนุ่มเจ้าของโรงแรม ได้ข่าวว่าสายไหมจะมาพัฒนาคุ้มสายคำ และโรงทอผ้าไหมเป็นสถานที่ท่องเที่ยว เขาจึงมาหาและทำเป็นชื่นชมในความคิดของเธอ แต่ความจริงเรวัติอยากจะเป็นเจ้าของคุ้มสายคำมากกว่า

แต่ระหว่างที่สายไหมและเรวัติกำลังเดินดูโรงงานทอผ้าด้วยกัน จู่ๆ เธอก็หลงเข้าไปในห้องเก็บผ้าโบราณ สายไหมลองเปิดดูแล้วเกิดเหตุการณ์ประหลาดคล้ายถูกผลักลงไปในหีบ แล้วสายไหมก็ติดอยู่ในนั้นไม่สามารถออกมาได้ พรรษามาที่คุ้มสายคำเพราะนัดกับติ่มซำ เพื่อแลกกระเป๋าเดินทางที่สลับกันที่สนามบิน ทำให้รู้เรื่องที่สายไหมหายตัวไป เลยช่วยกันออกตามหา แล้วพรรษาก็ช่วยสายไหมออกมาได้ทันก่อนที่เธอจะเป็นอันตราย

คืนต่อมาสายไหมได้พบกับเด็กชายอีกครั้ง เด็กพายเรือพาสายไหมออกไปกลางน้ำแล้วจู่ๆ เรือก็คว่ำ เด็กจมน้ำหายไป สายไหมรีบกระโดดลงน้ำตามไปช่วย แต่เด็กกลับดึงสายไหมลงไปใต้น้ำ เธอพยายามดิ้นรนจะเกือบจะหมดสติ แต่จู่ๆ เด็กกลับปล่อยร่างของเธอลอยขึ้นมา

พอสายไหมรอดมาได้ก็ไปคาดคั้นจนอุ๊ยทาต้องเล่าความจริงให้ฟังว่า เด็กคนนั้นคือชื่อจุ่น เป็นลูกชายของมาลัยที่หายไปตั้งแต่ยังเด็ก มีคนเห็นวิญญานจุ่นแถวบึงน้ำบ่อยๆ เชื่อกันว่าจุ่นคงไปเล่นซนแล้วตกน้ำตายโดยไม่มีใครรู้ ติ่มซำกลัวจนสติแตกรีบเก็บของจะกลับกรุงเทพให้ได้ แต่สายไหมมั่นใจว่าจุ่นไม่ได้คิดจะทำร้ายเธอ แต่ต้องการให้เธอลงไปใต้น้ำเพื่อเหตุผลอะไรบางอย่าง สายไหมจึงขอให้พรรษามาช่วยเธอค้นหาความจริง

พรรษาชวนดาบสนิท (ตี๋ ดอกสะเดา) นายตำรวจคู่หู มาช่วยกันค้นหาบางอย่างใต้บึงน้ำ แล้วพรรษาก็เจอหีบไม้ขนาดใหญ่จมอยู่ใต้โคลนก้นบึง ซึ่งลักษณะของหีบเหมือนกับหีบใส่ผ้าโบราณในโรงทอผ้าไหม แต่ฝาหีบถูกปิดล็อคไว้อย่างแน่นหนา พอเปิดหีบออกทุกคนก็ตกใจแทบสิ้นสติ เมื่อพบว่าในหีบคือร่างของหญิงสาวในชุดฟ้อนเล็บ ศพนั้นเน่าเปื่อยจนหมดสภาพ เหลือสิ่งที่เป็นหลักฐานคือชุดผ้าไหม เล็บที่ทำจากทองเหลือง และทับทิมสยามเม็ดงามตกอยู่ก้นหีบ

ในเมื่อสภาพการณ์บ่งชัดว่าเป็นการฆาตกรรม พรรษาจึงต้องเข้ามาเกี่ยวข้อง เขาขอเก็บหีบเอาไว้เพื่อเป็นหลักฐาน รวมทั้งทับทิมเม็ดนั้น เพราะเป็นไปได้ว่าอาจเป็นของฆาตกร ข่าวลือแพร่สะพัดออกไป ชาวบ้านต่างเชื่อกันว่าศพในหีบคือผีแม่หญิงเอื้องจันทร์ ประกอบกับมีคนเห็นผีสาวในชุดช่างฟ้อนเล็บ มวยผมสูง หน้าขาวซีด สวมเล็บสีทองออกอาละวาดหลอกผู้คนจนเป็นข่าวลงหนังสือพิมพ์ ทำเอาชาวบ้านหวาดกลัวกันไปใหญ่

เรวัติเห็นเป็นโอกาสดี เลยเสนอซื้อคุ้มสายคำต่อจากสายไหมทันที ติ่มซำเลยช่วยเรวัติกล่อมให้สายไหมขายบ้านและที่ดินเพื่อจะได้กลับกรุงเทพ แต่สายไหมและพรรษารู้สึกว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล จึงคอยสังเกตการณ์จนในที่สุดก็จับสาวชาวบ้านที่ปลอมเป็นผีเอื้องจันทร์ได้ หญิงคนนั้นสารภาพว่าเรวัติเป็นคนจ้าง

ฝ่ายเรวัติพอรู้ว่าโดนจับได้  ก็รีบไปทำลายหลักฐานด้วยการเผาหีบเอื้องจันทร์ทันที แต่เรวัติกลับโดนอิทธิฤทธิ์ผีเอื้องจันทร์ทำร้ายจนตาย ด้านสายไหมก็เริ่มโดนผีเอื้องจันทร์ทำร้ายด้วยวิธีการต่างๆ พอเดือนวาดรู้เรื่องผีเอื้องจันทร์มาทำร้ายสายไหม เธอก็สั่งให้บุญตาหาวิธีปราบจนสำเร็จด้วยการสะกดวิญญาณแล้วเผาทำลายหีบ ทุกคนโล่งใจที่กำจัดผีเอื้องจันทร์ได้ แต่หารู้ไม่ว่าวิญญานของเอื้องจันทร์ได้เข้าสิงสู่ร่างของสายไหมเรียบร้อย แล้ว

พรรษาที่กลับกรุงเทพไปกราบหลวงพ่อวรุณที่รับอุปการะเขาตั้งแต่เด็ก และบังเอิญเล่าเรื่องที่คุ้มสายคำให้หลวงพ่อฟัง จึงได้รู้ความจริงบางอย่างเกี่ยวกับเอื้องจันทร์ ทำให้พรรษาเชื่อว่าคนในครอบครัวของสายไหมน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของ เอื้องจันทร์ และเขาต้องสืบหาความจริงเรื่องนี้ให้ได้ก่อนที่สายไหมจะเป็นอันตรายมากกว่า นี้

อาทิตย์ต่อมาในงานเดินแฟชั่นผ้าไหมประจำปีของบริษัท “ผ้าไหมสายคำ” ที่โรงแรมหรู สายไหมกับติ่มซำเป็นคนจัดงานนี้ งานแฟชั่นโชว์ดำเนินไปอย่างราบรื่น จนมาถึงโชว์ชุดพิเศษที่ติ่มซำเตรียมไว้ แต่แล้วจู่ๆ ทุกคนก็ต้องช็อคเมื่อมีเสียงกลองดังก้องกังวานจนแสบหู มีแสงสว่างจ้าที่กลางเวที ซ้ำร้ายยังมีหีบผ้าไหมขนาดใหญ่ตั้งอยู่

ท่ามกลางความตื่นตระหนกของทุกคนในงาน สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อฝาหีบเปิดออก ร่างของช่างฟ้อนคนหนึ่งค่อยๆ ก้าวออกมาจากหีบ ทุกคนตกใจมากที่ช่างฟ้อนคนนั้นคือสายไหม ซึ่งนั่นหมายความว่าเอื้องจันทร์ได้ยึดร่างของสายไหม เพื่อจะได้แก้แค้นทุกคนที่ทำร้ายเธออย่างสาสม

แล้วจะมีใคร บ้างที่ต้องสังเวยความแค้นนี้ด้วยชีวิต? แล้วพรรษาจะช่วยชีวิตสายไหมให้รอดจากเงื้อมือของเอื้องจันทร์ได้หรือไม่? ตามลุ้นได้ในละคร “หีบหลอนซ่อนวิญญาณ

ผู้กำกับ : ฉัตรชัย สุรสิทธิ์
ผลิตโดย : เอ็กแซ็กท์
เขียนบท : วาทินีย์ โอฬาร์กร,บุญฤทธิ์ กลิ่นเกษร,วิวัฒน์ กฤษณาเวศน์
บทประพันธ์ : ศิริลักษณ์ ศรีสุคนธ์,บุญฤทธิ์ กลิ่นเกษร

นักแสดง
เก็จมณี วรรธนะสิน
พิชญา เชาวลิต

Share this article :

แสดงความคิดเห็น